สวัสดีค่ะ หนูอายุ 22 ปีค่ะ พอดีหนูมีเลือดออกขณะมี sex ค่ะ เลยกังวล •ครั้งแรกกับครั้งที่สองมีเลือดออกเล็กน้อยค่ะ หนูเข้าใจว่าน่าจะเป็นจากเยื่อพรหมจรรย์ขาด แต่ครั้งที่สองหนูรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปด้วยค่ะ •หลังทานยาคุมฉุกเฉินมีปจด.มาเยอะมากกว่าปกติค่ะ ประมาณ 5 วันถึงหายสนิท หลังจากปจด.วันแรกมา 8 วัน หนูมี sex ครั้งที่ 3 มีเลือดออกขณะมี sex ลักษณะสีคล้ำๆ จึงหยุดการมี sex แล้วล้าง ก็มีเลือดหยดออกมาอยู่ค่ะ และก็รู้สึกระคายเคืองรอบๆช่องคลอดด้านนอกนิดๆค่ะ แต่ไม่มีอาการเจ็บช่องคลอด ปวดท้อง ปัสสาวะไม่แสบขัด •ของแฟนค่อนข้างใหญ่ค่ะ แต่ของหนูค่องข้างใส่ยาก จะฝืดเหมือนยังกระตุ้นไม่ถึงจุด มีการใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง •หนูเพิ่งฉีดวัคซีน HPV เข็มที่ 2 เหลืออีก 1 เข็ม ขออนุญาตถามนะคะ 1.เลือดที่ออกตอนมี sex ครั้งที่ 3 เรียกว่าผิดปกติไหมค่ะ 2.โอกาสเสี่ยงเป็น CA Cervix สูงไหมค่ะ 3.ควรไปตรวจภายในไหมค่ะ (แต่หนูไม่ค่อยกล้าไป )ขอบคุณค่ะ

อาจเกิดได้จากหลายกรณีค่ะ
1.เลือดครั้งที่3 สีคล้ำอาจเป็นเลือดค้างตั้งแต่รอบที่2(เป็นผลมาจากยาคุมฉุกเฉิน)
2.อาจเกิดจากการเสียดสีมีรอยถลอก จากการที่น้ำหล่อลื่นไม่เพียงพอ หรือจากความกังวลกลัวเจ็บ
3.จากความผิดปกติภายใน เช่นการมีติ่งเนื้องอกภายในช่องคลอด ปากมดลูก เมื่อมีเพศสัมพันธ์ไปสัมผัสโดนก้อาจทำให้มีเลือดออกมาได้ค่ะ
ถามว่ามีความเสี่ยงในการเป็น CA Cervix ไหม..ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงค่ะ จะเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น การมีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย อายุ จำนวนบุตร เป็นต้น
ถามว่าควรไปพบแพทย์ไหม..ต้องดูว่าเลือดที่ออกมาเยอะไหม มีกลิ่นเหม็น หรือปวดหน่วงท้องน้อยหรือไม่ ตกขาวผิดปกติหรือเปลี่ยนสีมั้ย หากมีความผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้นก็ควรไปตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดและควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีนะคะ

1.เลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ถือว่ามีความผิดปกติและเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ "https://www.honestdocs.co/top-causes-of-vaginal-bleeding-after-sex" เนื่องจากเคยมีคุณหมอหลายท่านเคยตอบเอาไว้เยอะมากๆครับ เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว และจากข้อมูลเบื้องต้นยังบอกสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ จนกว่าจะมีการตรวจภายในยืนยันจากแพทย์อีกครั้ง

2.CA cervix หรือว่ามะเร็งปากมดลูก ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีเพศสัมพันธ์ก็ถือว่าเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อในการก่อโรคของมะเร็งปากมดลูกครับ นั่นคือ เชื้อ HPV เสี่ยงมากเสี่ยงน้อยหมอคงบอกไมไ่ด้ ต้องประเมินเองนะครับ ปัจจัยเสี่ยงในการเป็นมะเร็งปากมดลุก/ได้รับเชื้อมาได้แก่ มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย, มีคู่นอนหลายคน, เป็นโรคเรื้อรังหรือโรคที่ทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ เช่น HIV, การได้รับยากดภูมิ, มีประวัติเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์มาก่อน, มีความผิดปกติของปากมดลูกจากการตรวจภายใน และจากตรวจเซลล์ปากมดลูก (Pap Smear), จากพันธุกรรม, สูบบุหรี่, ฝ่ายชายมีเชื้อ/มีคู่นอนหลายคน เป็นต้นครับ

3.ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ไปตรวจภายในจะดีกว่าครับ จริงๆแล้วไม่มีอะไรน่าอาย ตรวจแปปเดียวก็เสร็จแล้วครับ อย่างน้อยๆถ้าหากเจอความผิดปกติจะได้รักษาเลย แต่ถ้าไม่เจออะไรก็จะได้สบายใจครับ