October 01, 2018 10:18
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการปวดเมื่อเนื้อตัว ปวดหลัง นั้นอาจเป็นจากสาเหตุจากทางด้านร่างกายเอง เช่น มีอาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อ ปวดเมื่อยตัวจากการเป็นไข้ไม่สบาย หรืออาจเป็นผลจากปัญหาทางด้านจิตใจซึ่งส่งผลต่ออาการทางกายก็ได้ครับ
ในกรณีที่มีความรู้สึกเบื่อไม่อยากทำอะไร นอนไม่หลับ มีความคิดอยากฆ่าตัวตายอยู่บ่อยๆ ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อร่วมกับอาการที่เกิดขึ้นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือการทำงาน ก็จะยิ่งมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจทำแบบทดสอบ 9Q ตามลิงค์นี้ เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตัวเองก่อนได้ครับ
https://www.dmh.go.th/test/download/files/2Q%209Q%208Q%20(1).pdf
หากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็ถือว่ามีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
หมอแนะนำให้ลองไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการทางด้านจิตใจเพิ่มเติมดูครับ เพื่อจะได้ช่วยให้อารมณ์ ความคิดต่างๆ และการนอนดีขึ้น ส่วนอาการปวดเมื่อต่างๆนั้นก็สามารถไปพบแพทย์ทางกายเพื่อประเมินอาการและดูแลร่วมกันได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาจจะเกิดจากความผิดปกติทางอารมณ์ค่ะ ซึ่งในปัจจุบันเชื่อว่าเกิดจากความผิดปกติของสารสื่อประสาทในสมองที่หลั่งออกมาไม่สมดุล ทำให้อารมณ์และความคิดแปรปรวนไปค่ะ สามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยา ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม และไม่ควรเพิกเฉยต่ออาการที่เกิดขึ้นหรือไปหาซื้อยามารับประทานเองค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
อาการดังกล่าวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย จากการที่ต้องเผชิญกับความเครียดเป็นเวลานาน จากความผิดปกติทางอารมณ์ ซึ่งอาจเข้าข่ายภาวะซึมเศร้า การปรับตัวผิดปกติ วิตกกังวล ได้เช่นกัน
แต่สภาวะทางอารมณ์ที่ดิ่งลงเช่นนี้อาจนึกถึงภาวะซึมเศร้าก่อนสาเหตุอื่นๆ
เบื้องต้นทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเอง ดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็ควรพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจะช่วยให้อาการดีขึ้นได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตื่นเช้ามีอาการไม่สบายตัวตลอด ปวดหลัง ปวดไปปั่วร่างกาย เวลานอนก็นอนไม่หลับ ชอบคิดอะไรแบบแย่ๆ บ่างเวลารู้สึกไม่ดี เคยคิดจะฆ่าตัวตาย บางอารมณ์คิดอยากทำในสิ่งที่ตัวเองทำ พออีกประมาณรู้สึกไม่อยากทำอะไร คุณหมอคิดหนูต้องเป็นโรคอะไรค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)