February 27, 2019 16:28
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. มีเพศสัมพันธ์ในวันที่เท่าไหร่คะ และป้องกันอย่างไร
2. ประจำเดือนครั้งล่าสุดมาวันที่เท่าไหร่ถึงเท่าไหร่คะ
3. ยาคุมที่ใช้คือยาคุมรายเดือนหรือยาคุมฉุกเฉินคะ และเริ่มรับประทานในวันที่เท่าไหร่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 24 ชม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 10-15%
ภายใน 72 ชม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-20% ค่ะ
การกินยาคุมฉุกเฉิน มีผลทำให้เลือดออกกระปิดกระปอยได้เล็กน้อยค่ะ อาการเลือดออกที่เล่ามานั้น อาจจะเป็นอาการเลือดออกที่เป็นผลจากการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ค่ะ
ส่วนอาการตกขาว ตกขาวที่ปกติจะสีมีขาวหรือใส และไม่มีกลิ่นเหม็น ส่วนตกขาวที่ผิดปกติจะมีสีที่แปลกไป เช่น สีเทา สีเขียว สีเหลือง สีชมพู หรือมีเลือดปน หรือมีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีปริมาณที่มากผิดปกติ เป็นก้อนหนา มีอาการแสบคันในช่องคลอด หรือมีอาการปวดหน่วงท้องน้อยร่วมด้วย สาเหตุจะเกิดจากการติดเชื้อค่ะ
หากลักษณะดูเป็นตกขาวที่ผิดปกติดังที่กล่าวไว้ ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีวันที่5
ประจำเดือนล่าสุดวันที่14-17 ยาคุมลายเดือนค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ขอบคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ
1. หากเลือดที่ออกมาในวันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ เป็นประจำเดือนจริง ๆ นั่นคือ มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน รวมถึงมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก ก็แสดงว่าการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์แล้วนะคะ
2. และเมื่อผู้ถามเริ่มรับประทานยาคุมรายเดือน ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทานค่ะ จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีผลคุมกำเนิดจากยาคุมรายเดือน ผู้ใช้จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3 - 9% แต่ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ ความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ
หากผู้ถามมีเลือดออกกะปริบกะปรอย แต่ไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง) ในระหว่างที่รับประทานเม็ดยาฮอร์โมนของแผง ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมค่ะ อาจพบในการใช้แผงแรก ๆ (1 - 3 แผงแรก) หรือเมื่อรับประทานไม่ตรงเวลา
ซึ่งผลข้างเคียงจากยาคุม โดยปกติจะไม่มีอันตราย และหายเองได้โดยไม่จำเป็นต้องรักษาเพิ่มเติมนะคะ เพียงแค่รับประทานยาคุมต่อให้ตรงเวลาสม่ำเสมอ เลือดกะปริบกะปรอยก็จะค่อย ๆ ลดลงและหายไปเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามมีอาการผิดปกติร่วมด้วย (เช่น ตกขาวในลักษณะที่ผิดปกติตามที่คุณหมอพิชญาพรแนะนำไปข้างต้น) หรือมีเลือดกะปริบกะปรอยออกมาบ่อย ๆ หรือต่อเนื่องกันเป็นเวลานานทั้งที่รับประทานยาคุมตรงเวลาสม่ำเสมอ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอถามหน่อยค่ะ เรามีอะไรกับแฟนแล้วเรากลัวพลาด เลยไปซื้อยาคุมมากิน ตอนเป็นประจำเดือนพอประเดือนหมดใช่ไหมค่ะหมดมาจะเกือบอาทิตย์แล้วทำไมมันยังมีเหมือนเลือดออกมากับตกขาวด้วยค่ะ หรือว่าเป็นเพราะเรากินยาคุมแล้วมันขับเลือดเสียออกมา แต่มันไม่เจ็บท้องหรืออะไรเลยนะค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)