ปวดบวมข้างๆรูทวาร แล้วตอนนี้เหมือนปวดลามไปถึงหูรูด หูรูดมีอาการบวมแดง เวลากดเจ็บ แต่ไม่มีเลือดไหล เวลานั่งรู้สึกเจ็บ (เคยเป็นริดสีดวงภายนอก แต่หายแล้ว)

สวัสดีค่ะ อาการปวดรูทวาร ที่พบบ่อยๆ อาจเกิดได้จากสาเหตุ 2-3 อย่าง ค่ะ เช่น -โรคริดสีดวง ก็มีโอกาสถ่ายเป็นเลือดได้ แม้ท้องไม่ผูก อาจคลำพบติ่งเนื้อ และมีอาการปวดได้ โดยเฉพาะ ชนิดอุดตัน ( thrombosed hemorrhoid) ซึ่งจะพบว่าอาจมีถาายลักษณะเป็นเลือดสดตามหลังการถ่ายอุจจาระ อาจจะเจ็บ หรือไม่อาการเจ็บปวดก็ได้ หรือถ้ามีแผลขอบรูทวารหนักอาจเจ็บได้ค่ะ -ส่วนอีกโรคที่มักพบได้บ่อยๆคือ มีแผลบริเวณรูทวาร ซึ่งเกิดจากอุจจาระแข็ง หรือการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก จะทำให้เกิดแผลบริเวณรูทวาร และทำให้มีอาการถ่ายเป็นเลือดสดและเจ็บบริเวณรูทวารได้คะ -การติดเชื้อขอบรูทวาร เช่น ฝีที่ทวารหนัก การติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง หูดต่างๆ อาจคลำได้ก้อน ติ่ง หรือผิวหนังบวมแดง แสบ มีผื่นได้ค่ะ -ติ่งเนื้อธรรมดา ลักษณะ เป็นส่วนหนึ่งของผิวหนัง มีสีเดียวกับผิวหนัง ไม่เจ็บ และไม่ขยายขนาดรวดเร็วค่ะ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อให้การรักษาอย่างเหมาะสมนะคะ อนึ่ง วิธีการแก้ไขเบื้องต้นที่แนะนำ คือ 1. รักษาอาการท้องผุก ได้แก่ ทานอาหารที่่มีกากใยมากๆ ดื่มน้ำเยอะๆ 2. ยาระบาย เช่น MOM , fiber เช่น senokot ต่างๆ อาจต้องใช้เป็นประจำสัก 1-2 สัปดาห์เพื่อให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น ลดการบาดรูทวารค่ะ 3. ยาลดอาการปวดรูทวาร เช่น ไนโตรกลีเซอริน ก็ช่วยได้ค่ะ 4. ยา steroid เช่น proctocedyl ช่วยลดอาการอักเสบของรูทวาร ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ค่ะ หากเป็นนาน รักษาเบื้องต้นด้วยการปรับวิถีชีวิตประจำวันแล้วไม่ดีขึ้น อาจเกิดจากหูรูดรูทวารแน่นเกินไป สามารถปรึกษาคุณหมอศัลยกรรมเพื่อประเมินอีกครั้งค่ะ