December 26, 2018 03:32
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
ฯลฯ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
ฯลฯ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
ฯลฯ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
ฯลฯ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีแผลที่อวัยวะเพศนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- แผลที่เกิดจากการบาดเจ็บ การเกา การเสียดสีทั่วไป
- แผลที่เกิดจากอาการแพ้ของผิวหนัง
- แผลที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
หมอแนะนำว่าควรให้แฟนไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ในระหว่างนี้หมอก็แนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนจนกว่าแผลของแฟนจะหายดีครับ และถ้าหากตรวจแล้วพบว่าสาเหตุเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตัวคุณเองก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมและอาจต้องได้รับการรักษาควบคู่กันไปด้วยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คือแฟนเป้นแผลที่อวัยวะเพศค่ะตอนแรกเป้นแค่ตุ่มใสๆแร้วมันก็กลายเป็นแผลร้อนในคือตอนแรกหนูมีอาการเจ็บที่อวัยวะเพศแร้วมามีอะไรกับแฟนพอต่อมาหนุมีตกขาวเยอะกลิ่นแรงแสบตอนปัสสาวะแร้วไปอนามัยเค้าให้ยาฆ่าเชื้อมากินพอยาหมดหนุไปซื้อยาที่ร้ายขายยาแร้วตัวหนุไม่มีอาการอะไรแร้วแต่หายเป้นแร้วก้อเป้นประจำเดือนเยอะมากส่วนแฟนยังไม่หายแร้วก้อเหมือนแชะจนมันเปื่อยกลายเป้นแผลใหญ่และมีแผลเพื่อขึ้นรอบอวัยวะเะศ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)