คุณพ่ออายุ59ปี มีอาการปวดท้องเป็นๆหายๆครับ นานๆจะปวดที เป็นมา2-3เดือนแล้ว ส่วนใหญ่จะปวดท้องตอนกลางคืน สมัยก่อนแกไม่ค่อยชอบทานอาหารเช้าครับ พึ่งจะมาปรับตัวทานมือเช้าได้ในช่วง6-7เดือน คุณพ่อเป็นคนออกกำลังกายประจำ ทานผัก ไม่ค่อยทานเนื้อ ไม่กินปิ้งย่าง ไม่สูบบุหรี่ แต่ดื่มเหล้า ดูแลสุขภาพดีครับ อยากทราบว่ามีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งไหมครับ

การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มีความเสี่ยงต่อการเกิดตับแข็ง และมะเร็งตับได้ค่ะ การจะทราบได้ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ อาจต้องทำการตรวจเพิ่มเติม เช่นตรวจเลือดหาค่าความเสี่ยงมะเร็ง การทำอัลตราซาวน์ช่องท่อง อาการปวดท้อง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เป็น. และการตรวจร่างกายจากแพทย์ จะช่วยวินิจฉัยโรคได้ บริเวณช่องท้องส่วนบน เป็นตำแหน่งของ กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น ตับ ตับอ่อน ถุงน้ำดี 1.อาการของโรคกระเพาะ มักจะมีอาการบริเวณใต้ลิ่นปี่ อาจปวดจุกท้องใต้ลิ้นปี่ หรือปวดแสบ ปวดเกร็งได้ค่ะ รวมถึงการมีแผลในกระเพาะ หรือแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น ก็ทำให้มีอาการปวดจุกเกร็งที่ใต้ลิ้นปี่ได้ 2.อาการโรคของถุงน้ำดี เช่น นิ่วในถุงดี สามารถทำให้มีอาการปวดเกร็งที่ช่องท้องส่วนบนได้เช่นกัน แต่อาจจะมีอาการแสดงร่วมคือปวดจุกมากขึ้นเวลารับประทานอาหารมันๆ เป็นต้น - โรคถุงน้ำดีอักเสบ ก็ทำให้เกิดอาการปวดจุกท้องใต้ลิ่นปี่และด้านขวาใต้ชายโครง มักมีไข้ อาการตาเหลือง ตัวเหลือง ร่วมด้วย กดเจ็บชัดเจนที่ท้องด้านขวาบน การรักษาเบื้องต้น สามารถรับประทานยาลดกรด ยาแก้ปวดท้อง ดูอาการก่อนได้ และปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ได้แก่ - งดเครื่องดื่มมีคาเฟอีน ชา กาแฟ น้ำอัดลม เคื่องดื่มแอลกอฮอล์ - ทานอาหารให้ตรงเวลา เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืน - งดอาหารที่มีรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ทานอาหารย่อยง่าย - งดทานมื้อดึก และไม่ทานจนอิ่มมากเกินไป - ความเครียดมีผลทำให้กรดในกระเพาะหลั่งออกมามากขึ้น จึงมีอาการจุกท้องได้ค่ะ - หากมีภาวะอ้วน ควรลดน้ำหนัก - ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยปรับสมดุลของระบบย่อยอาหาร หากรับประทานยากลุ่มยาลดกรดแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่ถูกต้องและรักษาต่อไปค่ะ การวินิจฉัยโรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี เช่น นิ่ว หรือถุงน้ำดีอักเสบ ความผิดปกติของตับเช่นไขมันเกาะตับ ตับแข็งตับอักเสบ จะให้ทำอัลตราซาวน์ช่องท้องเพื่อดูความผิดปกติ ถ้าหากอาการไม่ดีขึ้น อาจจะปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจอัลตราซาวน์ดูค่ะ