May 15, 2019 21:54
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
1.หากประจำเดือนมาแล้ว ในปริมาณที่ปกติ ติดต่อกันถึงสองเดือน ถือว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ
2.ระยะห่างของประจำเดือนดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ผิดปกติครับ
***รอบเดือนของผู้หญิง จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ดังนั้น ในเดือน มีค ที่คลาดเคลื่อน สองสัปดาห์ อาจมีปัจจัยกวน เช่น เครียด พักผ่อนน้อย แต่เมื่อเดือนถัดมา (เมษ-พค) รอบเดือนปกติครับ คือ ห่างจากรอบก่อน 6 วันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ ถ้าการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจหลังการมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 14 วัน ผลการตรวจจะสามารถยืนยันได้ครับว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ สามารถมั่นใจได้ 95%
สาเหตุอื่นที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาเช่น
1.ความผิดปกติที่ธาลามัส เช่น มีการทำงานของฮอร์โมนบางอย่างทำงานผิดปกติ หรือ เนื้องอก ซึ่งธาลามัสเป็นตัวควรคุม การทำงานของฮอร์โมนต่างๆครับ ถ้าทำงานผิดปกติจะส่งผลต่อต่อมใต้สมองได้ครับ
2.ความผิดปกติที่ต่อมใต้สมอง เช่น ผลิตฮอร์โมนที่ชื่อ prolactin มากไป จะทำให้มีน้ำนม เวลามีน้ำนม จะไม่มีประจำเดือน ครับ ซึ่งโรคนี้ต้องไปตรวจกับอายุรแพทย์เพื่อทำการ x ray คอมพิวเตอร์ สมองครับ
3.ความผิดปกติที่รังไข่ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ จะมีประจำเดือนมาไม่ปกติ มาบ้างไม่มาบ้าง เพราะว่าในบ้างเดือนไข่ก็จะไม่ตก กลายเป็นถุงน้ำในรังไข่ ซึ่งพบได้บ่อยในเพศหญิงโรคนี้จะตรวจต้องไปตรวจกับ สูตินารีแพทย์ ครับ
4.ความผิดปกติที่ฮอร์โมนจากร่างกายตัวอื่นๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ หรือไทรอยด์ต่ำ ซึ่งฮอร์โมนไทรอยด์ ต่ำไป สูงไป ก็จะทำให้ ประจำเดือนไม่มาได้ครับ เป็นต้นครับ
เพราะฉะนั้นแนะนำให้ไปโรงพยาบาลตรวจหาโรคเพิ่มเติมดีกว่าครับ การที่ประจำเดือนไม่มีมีหลายสาเหตุมากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเต่ผมกังวลที่เเฟนผมท้องใหญ่ขึ้นอ่ะครับ ไม่เเน่ใจว่าเกิดจากอะไร
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
การที่ท้องใหญ่ขึ้น เรื่อยโดยไม่ได้ตั้งครรภ์ ต้องลองไปตรวจภายใน และช่องท้องที่โรงพยาบาลครับ เนื่องจากอาจจะมีก้อนเนื่องอกของมดลูก หรือรังไข่ได้ครับ แนะนำว่าควรไปพบสูตินารีแพทย์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
การที่ท้องใหญ่ขึ้น ไม่ใช่อาการของการตั้งครรภ์ครับ
อาการท้องใหญ่ อาจเกิดจาก
-น้ำหนักขึ้น ขาดการออกกำลังกาย
-ท้องอืดท้องเฟ้อ
-การทีน้ำในท้องมาก เช่น โรคตับ โรคไต
-ก้อนเนื้อต่างๆ โดยเฉพาะเนื้องอก
ดังนั้น การวินิจฉัย โรค อาจคต้องตรวจร่างกายเพิ่ทเติมครับ ว่าท้องใหญ่เกิดจากอะไร เพื่อรักษาให้เหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือไม่ควรต้องกังวลเลยหรือป่าวครับ
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
หากใหญ่ขึ้นมากจริงๆ ควรไปตรวจครับ เพื่อหาสาเหตุที่ท้องใหญ่ขึ้นที่อาจเป็นอันตราย อย่างที่แจ้งไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
การที่ท้องใหญ่ขึ้นไม่ใช่เพราะสาเหตุการตั้งครรภ์ใช่ไหมครับ จากที่เล่าไป
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
ถ้าตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันแล้วขึ้น 1 ขีด หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ผ่านไป 14 วันแล้ว ผลตรวจจะมั่นใจได้ประมาณ 95% ครับว่าถูกต้องครับ แต่ถ้า ยังกังวลแนะนำว่าควรลองไปตรวจยืนยันอีกทีที่โรงพยาบาลได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
ถ้าประจำเดือนมา ไม่น่าใช่การตั้งครรภ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศุภลักษณ์ แซ่จัง (พว.)
สวัสดีค่ะ ปกติแล้วการตรวจการตั้งครรภ์โดยใช้ปัสสาวะผลเชื่อถือได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ค่ะ หากมีการตรวจซ้ำ 2 ครั้ง ผลขึ้นว่าไม่มีการตั้งครรภ์ ก็คือไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ อีกอย่างประจำเดือนของแฟนคุณมาเป็นปกติแล้ว ก็ถือว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ ปกติแล้วรอบเดือนของผู้หญิงสามารถคลาดเคลื่อนได้และมีรอบเดือนแตกต่างกันไป รอบเดือนปกติ 21-35 วัน หากประจำเดือนมาปกติ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอครับ คือผมอยากรู้ว่าอาการของคนท้องในระยะ2-3เดือนแรกจะมีอาการอย่างไรบ้างครับ
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
อาการทั่วไปของการตั้งครรภ์ได้แก่
1.ประจำเดือนหรือระดูขาด
2.เต้านมคัด โดยทั่วไปแล้วเวลาใกล้จะมีประจำเดือน สตรีส่วนใหญ่จะมีอาการคัดตึงเต้านมเล็กน้อย ส่วนหญิงตั้งครรภ์ก็เช่นกัน “แต่เต้านมของหญิงตั้งครรภ์จะคัดตึงมากกว่าและนานกว่า”
3.ปัสสาวะบ่อย
4.มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือ อาการแพ้ท้อง ที่พบได้บ่อยที่สุดในหญิงตั้งครรภ์ และจะปรากฏออกมาในช่วงตั้งครรภ์ได้ประมาณ 6-12 สัปดาห์
5.อาการอื่นๆ เช่น วิงเวียนศีรษะหรือเป็นลม จมูกไวต่อกลิ่น เบื่ออาหาร เป็นต้น
**ทั้งนี้ อาการต่างๆ เป็นอาการที่ไม่จำเพาะต่อการตั้งครรภ์ครับ หากคนไข้มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน แนะนำว่าให้ตรวจการตั้งครรภ์จะแม่นยำที่สุดครับ
คนไข้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุดประมาณ 14 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ (ทางปัสสาวะ) แต่ถ้าไปตรวจเลือดที่ รพ เร็วที่สุด 10 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สำหรับบุคคลที่ตั้งครรภ์ 2-3 เดือนแรก สามารถมีอาการคือ
1.คัดตึงเต้านม
2.อาจจะแพ้ท้องได้ในบ้างคน
3.สะโพกขยายมากขึ้น
4.หน้าท้องโตขึ้นเป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมอครับผมขออีกหนึ่งคำถามนะครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบไม่สอดใส่แต่ใช้นิ้วที่เปื้อนอสุจิสอดใส่ช่องคลอดแทนแบบนี้จะมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์์มากน้อยแค่ไหนครับ
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
โอกาสการตั้งครรภ์ แทยเป็นไปไม่ได้ครับ
เราจะตั้งครรภ์ตามธรรมชาติได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยมีการสอดใส่อวัยวะเพศชายและหลั่งน้ำอสุจิในช่องคลอดเท่านั้นครับ
>>ถ้าไม่ได้มีการสอดใส่อวัยวะเพศเลย เช่น
-การถูกันภายนอก
-การทำออรัลเซ็กส์
-มีเครื่องนุ่งห่ม
-การหลั่งน้ำอสุจิบริเวณอื่นๆที่ไม่ใช่ภายในช่องคลอด
-น้ำอสุจิ แค่โดนบริเวณปากช่องคลอด หรือด้านนอกอวัยวะเพศอื่นๆ
-**รวมถึงการสัมผัสอสุจิแล้วมาสัมผัสข่องคลอด
*****โอกาสที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่ ทำให้เกิดการตั้งครรภ์แทบจะเป็นไปไม่ได้ครับ***** กรณีที่กล่าวไป จึงค่อนข้างคลายกังวลได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ อายุ 22 ปีค่ะ คล้ำหน้าอกฝั่งขวาบริเวณซ่ายบนมีก้อนๆค่ะ กดหมุนๆมันก็เหมือนจะหมุนตามมือค่ะ เคยคล่ำแล้วเจอและ ไปหาหมอตรวจแบบอัลตราซาวเมื่ิปีที่แล้วแต่คุณหมอบอกไม่พอก่อนแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่ครั้งนี้เป็นอีกแล้วอยากถามว่าอันตรายมั้ยค่ะ หรือจะเป็นมะเร็วเต้านมหรือซีสมั้ยค่ะ
สวัสดีครับ คือผมได้มีเพศสัมพันธ์กับเเฟนเมื่อวันที่3มีนาคมแล้วได้ตรวจการตั้งครรภ์หลังจากนั้นประมาณ1เดือนเเละได้ตรวจ2ครั้งเเละทั้ง2ครั้งก็ขึ้น1ขีดแต่ผมรู้สึกว่าท้องเเฟนใหญ่ขึ้นครับเเละดูจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดจนถึงวันนี้ก็ระยะเวลาเกือบ3เดือนเเล้วครับ แต่ประจำเดือนเมื่อเดือนมีนาคมมันมาครับเเต่มาช้าไป2สัปดาห์คือมาวันที่28-1เมษายนครับเเล้วเดือนเมษามันไม่มาเเต่มาวันที่3-7ของเดือนพฤษภาคมเเทน แบบนี้ปกติไหมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)