February 10, 2019 20:22
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีประสบการณ์ชีวิตที่ไม่ดีบางอย่าง การมีมีปัญหากับทางครอบครัว และปัญหาการเรียนนั้นเป็นเรื่องปกติที่จะทำให้เกิดอารมณ์เศร้าได้ครับ แต่การที่อารมณ์เศร้านั้นเกิดขึ้นบ่อยๆจนส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
หมอแนะนำว่าในกรณีนี้ควรหาโอกาสไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมดูก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ส่วนในระหว่างนี้หมอแนะนำให้ดูแลจิตใจของตนเองโดยการพยายามหากิจกรรมที่ผ่อนคลายและชอบมาทำ พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หากิจกรรมใหม่ๆทำบ้าง รวมถึงหาเพื่อนเพื่อพูดคุยด้วย ก็จะมีส่วนช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นบ้างได้ครับ
ในกรณีที่ยังไม่สะดวกไปพบแพทย์ในเร็วๆนี้ก็อาจโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิต เบอร์ 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการที่เล่ามาอาจมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่าย และอาการปัจจุบันก็ส่งผลกระทบต่อผลการเรียน คิดว่าหนูควรเข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจากจิตแพทย์ดีกว่านะคะ หากปล่อยไปเรื่อยๆเกรงว่าอาการจะรุนแรงมากขึ้น จนยากแก่การรักษา
เบื้องต้นให้หนูเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาจะทำให้เห็นว่ามีในเรื่องของ ปมครอบครัวและการจัดการความเครียด ที่คุณกังวลว่าอาจจะคุณไม่สามารถควบคุมตนเองได้หากว่าเกิดปัญหาที่เข้ามามากขึ้นๆ ในชีวิตของการเรียนมหาวิทยาลัยนะครับ ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของคุณในการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยานะครับ ซึ่งการเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญอาจจะช่วยให้คุณสามารถคลี่คลายปมในจิตใจหรือการมีความหวังในการใช้ชีวิตได้มากขึ้นครับ สำหรับตรงจุดนี้ที่บอกว่าไม่มีเวลาไปพบจิตแพทย์ อยากให้ลองดูในส่วนของการพูดคุยกับนักจิตวิทยาในมหาวิทยาลัย เนื่องจากบางมหาวิทยาลัยได้มีการเปิดให้นิสิต นักศึกษาเข้ารับการปรึกษาจากนักจิตวิทยาได้ ซึ่งหากต้องการทราบข้อมูลของพูดคุยสอบถามทางกิจกรรมนิสิต นักศึกษาของทางมหาวิทยาลัยดูนะครับว่ามีให้บริการดังกล่าวหรือไม่
สิ่งที่ผมค่อนข้างกลัวอีกอย่างคือ การมีความคิดฆ่าตัวตาย ดังนั้นผมก็อยากจะแนะนำให้ลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยานะครับ เพราะว่ามีในเรื่องของความคิดที่ว่าอยากตายหรือแม้แต่การทำร้ายตนเองให้เห็นอยู่เมื่อยังวัยรุ่น อย่างไรก็ตามนอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การบริหารจัดการกับความเครียดหรือการดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน การทานอาหารหรือการนอนหลับที่เพียงพอจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์ และในเบื้องต้นอยากให้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง หรือหากอยู่กับเพื่อนๆแล้วรู้สึกดี ก็อาจจะหาเพื่อนที่รู้สึกไว้ใจลองค่อยๆบอกเล่าปัญหาที่เจอให้ฟังได้ แต่ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะครับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์ของตัวคุณได้ หรืออาจจะช่วยให้อารมณ์เศร้าเหล่านี้บรรเทาลงไปได้
ในส่วนของการทำร้ายตนเองหรือความคิดฆ่าตัวตาย หากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือว่ามีแนวโน้มที่เราจะทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือติดต่อไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ 24 ชม. เพื่อที่คุณจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมในด้านการช่วยเหลือเชิงจิตใจในเบื้องต้น หรือคุณสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำคุณไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ
สุดท้ายนี้หากมีคำถามเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
รบกวนตอบคำถามหน่อยค่ะ สังเกตตัวเองมาตั้งแต่ช่วงม.ต้น ตอนม.ปลายก็มีการใช้ความรุนแรงเมื่อทะเลอะกับคนในบ้าน บางครั้งก็ทำร้ายตัวเอง แต่ตั้งแต่เข้ามหาลัยมาอยู่หอกับเพื่อนก็ไม่ค่อยทำ จะมีอาการซึมเศร้าทุกครั้งหลังจากหงุดหงิดหรือเครียด ใส่ใจคำพูด การกระทำคนรอบข้างมากเกินไปจนเอามาคิดไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี จนทำให้ตัวเองเครียด และเก็บไว้คนเดียว เคยคิดฆ่าตัวตายแต่ไม่เคยทำ เมื่อมีเรื่องกระทบเทือนจิตใจมากๆโดยเฉพาะเรื่องปมด้อย เรื่องครอบครัว เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นตอนพ่อกับแม่แยกทางกัน ตอนนี้ยอมรับว่าคัวเองขาดความอบอุ่น ยิ่งโตยิ่งรู้สึกตัวเองไม่มีค่ากับคนในบ้านสักเท่าไร ยิ่งตอนนี้เรียนหนักเกรดยิ่งลดก็ยิ่งเครียด อาการดังกล่าวก็จะเป็นบ่อยขึ้น กว่าจะเรียนจบกลัวจะเป็นบ้าพอดีค่ะจึงอยากปรึกษาคุณหมอก่อน เนื่องจากยังไม่มีโอกาสไปรพ.ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)