November 14, 2018 19:55
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
จากข้อความที่ว่า "ประจำเดือนหนูมา วันที่25 ธันวาคม 2561 แล้วก็หมดวันที่ 31 ธันวาคม" ผู้ถามพิมพ์เดือนผิด โดยหมายถึงเดือนตุลาคมใช่มั้ยคะ เพราะวันนี้คือ 14 พฤศจิกายน 2561 ค่ะ ยังไม่ถึงเดือนธันวาคมนะคะ
ถ้าประจำเดือนมาวันที่ 25 ตุลาคม ผู้ถามก็ฉีดยาคุมเข็มแรกไม่ทัน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนแล้วค่ะ และเมื่อมีเพศสัมพันธ์โดยป้องกันด้วยวิธีหลั่งนอกซึ่งมีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ถึง 22% ก็ยังไม่แนะนำให้ฉีดยาคุมในตอนนี้นะคะ
แต่ควรรอให้ประจำเดือนมารอบหน้า เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอน จึงเริ่มฉีดยาคุมเข็มแรกภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือนค่ะ และหากฉีดยาคุมเข็มแรกทันช่วงเวลานั้น จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดได้เลยหลังฉีดยานะคะ มีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติ ไม่ต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยค่ะ
การตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ หากตรวจไม่ถูกวิธี หรือตรวจในเวลาที่ไม่เหมาะสม (เช่น ไม่ได้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน) ผลตรวจนั้นจะเชื่อถือไม่ได้ค่ะ จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอนนะคะ
หากมีการตั้งครรภ์ไปแล้ว ต่อให้ฉีดยาคุมก็ไม่สามารถจะป้องกันได้อยู่ดีค่ะ การตั้งครรภ์นั้นก็จะยังคงอยู่เหมือนเดิมทั้ง ๆ ที่มีการฉีดยาคุมนั่นเอง
แต่หากไม่มีการตั้งครรภ์ก่อนที่จะมีผลคุมกำเนิดจากยา การเริ่มฉีดในวันนี้ ก็ยังไม่มีผลคุมกำเนิดได้ทันทีนะคะ จึงต้องคุมกำเนิดต่ออีก 7 วันหลังฉีดยาค่ะ และประจำเดือนในรอบนี้ก็จะยิ่งเลื่อนช้าออกไปจากเดิมมาก จึงน่าจะยิ่งทำให้กังวลมากขึ้นกับการที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไป
ดังนั้น แนะนำให้คุมกำเนิดด้วยถุงยางไปก่อนนะคะ แล้วรอให้ประจำเดือนมารอบหน้าจึงเริ่มฉีดยาคุมเข็มแรกค่ะ
..
..
..
การมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอก มีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้สูง 22% ดังนั้น ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ในครั้งนั้น แนะนำให้รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วนะคะ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ หากใช้เร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาได้บ้างค่ะ
แต่ถ้าเกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว ก็ป้องกันฉุกเฉินไม่ทันแล้วนะคะ จึงต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ถ้ามี ก็ไม่ตั้งครรภ์ค่ะ แต่ถ้าไม่มี ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้แน่ชัดนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตรวจไปแล้ว2ครั้ง ตอนเห็นเลือด1ครั้ง แล้ววันนี้นี้อีกครั้ง
มีอาการปวดท้องนิสหน่อย เลือดออกมาเป็นสีชมพูประมาณ2วัน อาการนี้มีแนวโน้มว่าจะท้องมั้ยค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าการตรวจตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะทั้ง 2 ครั้งนั้น
1. ใช้ชุดทดสอบถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก
2. ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน
3. ตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน
ครบทั้ง 3 ข้อ ผลตรวจที่ออกมา 1 ขีดก็เชื่อได้มากกว่า 99% ว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ
แต่ถ้าไม่ใช่ ขาดข้อใดข้อหนึ่งไป ก็จะเชื่อถือไม่ได้นะคะ จึงต้องรอดูประจำเดือน หรือตรวจใหม่ให้ถูกต้องค่ะ
การประเมินโอกาสตั้งครรภ์จากอาการที่คิดว่าน่าจะพบในหญิงตั้งครรภ์ ไม่แม่นยำเท่ากับชุดทดสอบทางวิทยาศาสตร์ค่ะ ดังนั้น แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ให้ถูกต้อง (ถ้าตรวจไม่ถูกตามที่กล่าวไปข้างต้น) หรือรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะ ประจำเดือนหนูมา วันที่25 ธันวาคม 2561 แล้วก็หมดวันที่ 31 ธันวาคม แล้ว เมื่อวานนี้กับวันนี้ อยู่ๆก็มีเลือกไหลออกมา เป็นสีชมพู ซื้อที่ตรวจมาตรวจผลตรวจคือไม่ท้อง แล้วหนูจะไปฉีดยาคุมแบบรายเดือนวันนี้ จะมีผลอะไรหรือป่าวค่ะ ถ้าเกิดท้องหรือไม่ท้อง (ก่อนหน้านี้ก็มีเพศสัมพันปกติป้องกันโดยใส่ถุงยางกับหลั่งข้างนอกค่ะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)