August 22, 2018 16:02
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
การบำบัดยาเสพติดนั้นจะต้องมีการประเมินก่อนว่า ผู้ป่วยมีความต้องการเลิกยาเสพติดด้วยตนเองหรือไม่ ถ้ายังไม่มีความต้องการเลิกใช้ ก็จะต้องใช้วิธีการพูดคุยอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงผลเสียที่เกิดขึ้นครับ เช่น จะมีผลต่อสมอง มีผลต่อความจำ เห็นภาพหลอนนำไปสู่การทำร้ายคนอื่นได้
เเนะนำให้คุยกันก่อนครับ ว่าคนไข้มีความคิดอยากเลิกหรือไม่ เเนะนำให้ไปพบจิตเเพทย์ครับ หรือ สถาบันบำบัด บางครั้งต้องนอนโรงพยาบาลครับ เพื่อรักษาอาการถอนยา ในการถอนพิษยาจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยมีอาการอยากยามาก ๆ และจะเริ่มมีอาการคลั่ง ก็จะมีการให้ยาชนิดอื่นทดแทน เช่น เมธาโดน เป็นต้น
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ไม่แน่ใจว่าคุณหมายถึงการเสพอะไรครับ
แต่หลักการโดยทั่วไปแล้ว จะไม่มีทางให้ผู้ติดยาเสพติด ติดเหล้า หรือบุหรี่ เลิกใช้โดยไม่รู้ตัวได้ครับ เนื่องจากตัวผู้เสพเป็นผู้เสพเอง ดังนั้นเขาก็จะต้องรู้ตัวเสมอครับว่าขณะนั้นเขามีการเสพสารต่างๆอยู่หรือไม่
วิธีการที่จะทำให้ผู้ที่มีการเสพติดยาสามารถเลิกการเสพสารได้นั้น ต้องเริ่มต้นจากการทำให้เขาตระหนักรู้ถึงผลเสียของสารเสพติดต่อร่างกายเขาก่อน เช่น ทำให้เจ็บป่วยบ่อย ความจำแย่ลง ควบคุมตัวเองไม่ได้ มีอาการหูแว่วประสาทหลอน มีปัญหาด้านการเงิน/หนี้สิน เมื่อเขาตระหนักถึงผลเสียเหล่านี้ได้ ความต้องการอยากเลิกใช้สารเสพติดก็จะเริ่มเกิดขึ้นตามมา
เมื่อเกิดความต้องการอยากเลิกแล้ว ผู้ที่เสพสารอาจจะยังมีความลังเลที่จะเลิกใช้อยู่ เนื่องจากอาจยังรู้สึกว่าการเสพสารมีข้อดีของเขาอยู่ ก็จะต้องมีการพูดคุยต่อไปเพื่อให้เขามั่นใจมากขึ้นว่าการเลิกใช้สารเสพติดจะมีประโยชน์ต่อเขามากจริงๆ และก็จะเป็นขั้นตอนในลักษณะนี้ไปเรื่อยไปจนกระทั่งเขามั่นใจและมีความตั้งใจจริงๆที่จะใช้สารเสพติดครับ
ในเบื้องต้นนั้นแนะนำให้ลองพูดให้เขามองเห็นข้อเสียต่างๆของสารเสพติดก่อน รวมถึงพยายามเชิญชวนให้ยอมเข้าสู่กระบวนการรักษาครับ แนะนำให้ลองพาเขาไปที่ศูนย์บำบัดยาเสพติดหรือไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านดู เพื่อให้ความช่วยเหลือในการจูงใจให้เขาอยากเลิกใช้สารเสพติดมากขึ้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เพิ่มเติมนะคะ..ในกรณีที่หนูบอกว่าเขาไม่ยอมเลิกอาจเป็นเพราะเขาทนกับอาการถอนยาเมื่อเลิกเสพไม่ได้ ยังไงลองพุดคุยให้แฟนเข้ารับการบำบัดอย่างถูกวิธีโดยจิตแพทย์ จะทำให้ปลอดภัยมากกว่าการที่จะพยายามเลิกด้วยตัวเองนะคะ จิตแพทย์จะใช้ยาในการบำบัดร่วมกับการทำพฤติกรรมบำบัด จะสอนทักษะในการเลิกยา ซึ่งจะช่วยป้องกันการกลับไปเสพซ้ำด้วยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ที่บ้านมีอาการคลั่งทำรายข้าวของ แล้วกำลังจะเริ่มทำร้ายคนอื่น แต่เขาไม่ยอมรับตัวเองว่าติดยาเลยไม่ยอมบำบัดค่ะทำไงดีคะ
แฟนติดยาเหมือนกันค่ะไม่ยอมเลิกเคยพูดว่าอยากเลิกแต่เอาเข้าจริงก็ไม่เลิกตอนนี้เริ่มทำร้ายข้าวของต่อไปม่รู้จะทำร้ายคนรอบข้างหรือเปล่าขอวอนคนที่สามารถช่วยได้ช่วยหน่อยค้ะจนปัญญาจริงๆเขาดื้อมากไม่่่ฟังใครเลยพอมีวิธีแนะนำไหมค่ะ
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แฟนติดยาเหมือนกันค่ะไม่ยอมเลิกเคยพูดว่าอยากเลิกแต่เอาเข้าจริงก็ไม่เลิกตอนนี้เริ่มทำร้ายข้าวของต่อไปม่รู้จะทำร้ายคนรอบข้างหรือเปล่าขอวอนคนที่สามารถช่วยได้ช่วยหน่อยค้ะจนปัญญาจริงๆเขาดื้อมากไม่่่ฟังใครเลยพอมีวิธีแนะนำไหมค่ะ
มีวิธีที่ทำให้เขาเลิกยาโดยไม่รู้ตัวมั้ยค่ะเพราะเขาไม่ยอมเลิกเองทำยังไงก็ไม่ยอมเวลาไม่ได้เสพก็จะมีอาการหงุดหงิดและก็ปวดท้องบ้างครั้งก็อาเจียนด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)