March 09, 2019 14:11
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการของโรคไบโพลาร์นั่นจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่มีอารมณ์ร่าเริงหรือหงุดหงิดง่าย กับช่วงที่มีอารมณ์เศร้าครับ
ในช่วงที่มีอารมณ์ดีหรือหงุดหงิดนั้นมักมีอารมณ์ในลักษณะนี้ติดต่อกันนานอย่างน้อย 4-7 วัน โดยที่จะมีอาการเด่นๆฝนช่วงนี้คือ
- รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
- ความต้องการนอนลดลง
- วิกแวกง่าย
- พูดเก่งขึ้น
- มีความคิดแล่นเร็ว
- อยากทำกิจกรรมต่างๆที่อาจเสี่ยงอันตรายหรือกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องเพศมากขึ้น
- มีการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากขึ้น มีการลงทุนกับสิ่งต่างๆอย่างไม่สมเหตุสมผล
ส่วนในช่วงที่มีอารมณ์เศร้านั้นจะทำให้มีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
และอาการทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้จะต้องรุนแรงจนส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
จากอาการข้างต้นนั้นยังไม่ใช่อาการที่จะยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าจะเป็นโรคไบโพลาร์หรือไม่ แต่ถ้าหากรู้สึกว่าอารมณ์ของตนเองมีความผิดปกติไปจากเดิมจนเริ่มส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต หมอก็แนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ทราบว่ามีความผิดปกติหรือไม่ และเพื่อที่จะได้วางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ในส่วนของโรคไบโพล่าร์ตรงนี้อยากจะขอเพิ่มเติมนะครับว่าสามารถเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยาได้ ซึ่งก่อนอื่นคุณควรที่จะได้รับการวินิจฉัยเพื่อตรวจหาสาเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่นๆ ตามที่คุณหมอได้ให้ความรู้ไว้นะครับ ซึ่งหลังจากได้รับการวินิจฉัยและแน่ใจแล้วในเรื่องของโรคไบโพล่าร์ การรับประทานยาอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการทำจิตบำบัด จะยิ่งช่วยให้คุณสามารถควบคุมและจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ดีขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังช่วยให้คุณได้เสริมสร้างทักษะในการเรียนรู้ที่จะรับมือกับความเครียดหรือรับมือกับอารมณ์ของคุณได้มากขึ้นนะครับ
นอกเหนือจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญแล้ว ในเรื่องของกิจกรรมอื่นๆ ก็สามารถลองหากิจกรรมใหม่ๆที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง อาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง พยายามทานอาหารให้ครบหมู่ ทานของอร่อย หรือแม้กระทั่งการพูดคุยกับคนที่เราไว้ใจก็สามารถเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะช่วยเราในเรื่องของการลดความเครียดหรือบริหารอารมณ์ได้ดีขึ้นครับ
ในด้านล่างนี้ผมได้แนบบทความของโรคไบโพล่าร์ โดยหากสนใจก็สามารถเข้าไปอ่านบทความเหล่านี้ได้นะครับซึ่งบทความตรงนี้อาจจะยาวซักหน่อย แต่ก็มีเนื้อหาที่ครบถ้วนดี และหากว่ายังกลัวที่จะเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา ผมแนะนำให้ลองโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ดูได้ครับเพื่อรับบริการการปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะมีให้บริการ 24 ชม. แต่อาจจะมีการรอสายนานบ้างเป็นบางช่วงเวลาครับ
https://www.honestdocs.co/understanding-bipolar
สุดท้ายนี้หากมีคำถามอะไรก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ไบดพลารื เป็นโรคที่มีความผิดปกติทางอารมร์ ซึ่งมีสภาวะอารมณ์ที่ผิดปกติ 2 สภาวะ สลับกัน คือ
1.ภาวะแมเนีย หรือภาวะครึกครื้น สนุกสนานผิดปกติ หงุดหงิดง่าย มีกิจกรรมหรือเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้นมากมายโดยมีอาการต่อเนื่อง อย่างน้อย 1 สัปดาห์
2.ภาวะซึมเศร้า มีอาการเบื่อหน่าย ไร้ความสุข ท้อแท้ คิดอยากตาย ทำอะไรเชื่องช้าไปหมด สมาธิการตัดสินใจลดลง ซึ่งมีอาการต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ไบโพลาร์ มีสาเหตุหลักมาจากความผิดปกติของสารสื่อนำประสาทในสมอง(โดยเฉพาะ norepinephrin ,dopamine , serotonin ) ความผิดปกติของระบบประสาทต่อมไร้ท่อ และการทำงานของสมองผิดปกติ นอกจากนั้นสาเหตุจากความเครียดเรื้อรัง ลักษณะบุคลิกภาพและการปรับตัวก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีอาการไบโพลาร์ได้เช่นกัน
การรักษา จำเป็นต้องใช้ยา เพื่อปรับสมดุลของสารสื่อนำประสาท ยาที่ใช้จะเป็นยาปรับอารมณ์ ร่วมกับยารักษาโรคจิต และในกรณีที่มีอาการรุนแรงมากหรือมีอาการเรื้อรังหรืออาการไม่ตอบสนองต่อยา จะให้การรักษาด้วยไฟฟ้าค่ะ นอกจากนั้นการรักษาด้านจิตใจและสังคมจะช่วยลดอาการกำเริบซ้ำของโรค ดังนั้นกระบวนการรักษาจึงจำเป็นต้องใช้หลายวิธีร่วมกันตามความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละรายค่ะ
ในกรณีที่มีอาการเข้าข่ายไบโพลาร์ หรือมีอารมรืผิดปกติจนส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน แนะนำพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือผม งงกับตัวเองมากๆเลยครับ บางครั้ง ผมมีอาการ หงุดหงิด คิดในแง่ลบ เบื่อ อะไรที่ชอบทำก็เริ่มเบื่อ ไม่อยากทำ สังคมก็ไม่อยากเข้าหา ไปข้างนอกรู้สึกระแวง สายตาคนอื่น แต่กลับกัน บางครั้ง ก็ ร่าเริง สนุกสนาน เฮฮา สลับไปมาอย่างนี้มาหลายปีแล้วครับ ผม เป็น ไบโพลาร์ หรือป่าวครับ??
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)