เคยกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมาเเล้ว1ครั้ง เเต่ต้องการจะกินอีก1ครั้ง จะเป็นไรมั้ย ถ้ารู้ว่าร่างกายมีเชื้อมะเร็ง

มีเชื้อมะเร็งอะไรคะ และทราบได้อย่างไร

ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีไว้เพื่อการคุมกำเนิดระยะยาว และเมื่อกินบ่อยครั้งหรือกินติดต่อกันนานๆ ยังส่งผลให้ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพลดลง หรือทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น รวมถึงปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงในยาคุมฉุกเฉินที่สูงกว่ายาคุมกำเนิดแบบปกติถึง 2 เท่า หากเป็นยาคุมฉุกเฉินชนิดฮอร์โมนรวมอาจก่อให้เกิดอันตรายต่างๆ ได้ เช่น เพิ่มโอกาสเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งเต้านม ได้ครับ

ฉะนั้น ไม่ทรายว่าคนไข้ มีปัญหาเรื่องโรคมะเร็งชนิดใดครับ และได้รับการรักษาด้วยวิธีใดแล้วบ้าง แพทย์ผู้ทำการรักษาแจ้งว่ามะเร็งอยู่ในระยะไหนแล้วครับ มียารับประทานประจำหรือไม่

หากมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่สูงเช่น หลั่งใน และไม่ต้องการมีบุตร และไม่ได้ใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลายครั้ง เพื่อความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์อาจพิจารณารับประทานให้ครบก่อนครับ และควรปรึกษาแพทย์ที่ทำการรักษา ถึงความเสี่ยงต่อไปครับ

สำหรับบุคคลทั่วไป องค์การอนามัยโลกได้มีการชี้แจงไว้เมื่อปี ค.ศ.2010 นะคะว่า ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่ยืนยันได้ว่าการใช้ยาคุมฉุกเฉินชนิดตัวยาลีโวนอร์เจสเทรล เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งต่าง ๆ

ส่วนในผู้ที่พบก้อนเนื้อในเต้านมที่ยังระบุไม่ได้ว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ หลักเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับการเลือกวิธีคุมกำเนิด (Medical Eligibility Criteria for Contraceptive Use) ฉบับปรับปรุงปี 2017 แนะนำว่า มีทางเลือกในการคุมกำเนิดฉุกเฉิน ดังนี้ค่ะ

1. ให้สูตินรีแพทย์ใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยถือเป็นคำแนะนำระดับ US MEC = 1 นั่นคือ สามารถใช้วิธีนี้ได้โดยไม่มีข้อจำกัด

2. รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็ว ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยถือเป็นคำแนะนำระดับ US MEC = 2 นั่นคือ ใช้ได้ แต่ควรมีการตรวจติดตามผล

ในกรณีนี้ การใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ถือเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าค่ะ และยังมีประสิทธิภาพเหนือกว่าการรับประทานยาคุมฉุกเฉินมาก นั่นคือ ผู้ที่ใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% ในขณะที่การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน ผู้ใช้ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25% อีกทั้งห่วงอนามัย ยังมีผลคุมกำเนิดได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ด้วยค่ะ

ดังนั้น แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อปรึกษาการใส่ห่วงอนามัยจะดีกว่านะคะ

ยาคุมฉุกเฉินที่มีใช้ในประเทศไทย มีตัวยาเดียวกันค่ะ และมีปริมาณยารวมทั้งแผงเท่ากัน ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้ยี่ห้อใดก็มีประสิทธิภาพและผลข้างเคียงไม่แตกต่างกัน

แต่ในกรณีของคุณ แนะนำการใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงเป็นวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉินนะคะ เพราะ (ต้องขออภัยที่ต้องบอกว่า) ถ้าก้อนเนื้อของคุณเป็นมะเร็งเต้านมจริง ๆ การใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิดทุกชนิด อาจส่งผลกระทบและทำให้เป็นอันตรายมากขึ้นค่ะ (US MEC = 4 นั่นคือ มีความเสี่ยงมาก ห้ามใช้โดยเด็ดขาด) แต่ถ้าเป็นเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง ก็สามารถใช้ได้ (US MEC = 1)

ดังนั้น ยืนยันคำแนะนำเดิมค่ะ ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดงดีกว่านะคะ