สวัสดีค่ะ หนูอายุ21ปี เป็นคนคนตัวเล็ก แต่เป็นประจำเดือนนานมากค่ะ เป็นครั้งแรก15วัน และก็เป็น15วันตลอด ทุกครั้งที่เป็นประจำเดือนจะรู้สึกปวดท้องน้อยมาก ปวดร้าวลงขา หน่วงๆที่ขา มีครั้งหนึ่งที่ปวดท้องน้อยมาก ตอนนั้นเป็นประจำเดือนเกือบทั้งเดือน หน้าซีด จนต้องไปหาหมอ คุณหมอบอกว่าอาจเกิดจากความผิดปกติของฮอร์โมน เลยให้ยามาทาน และนัดดูอาการอีกที หลังจากนั้น1เดือนมันปวดเหมือนเดิม และปวดมาก อาเลยพาไปหาหมอคลินิก คุณหมอบอกว่าอาจเป็นเพราะผนังมดลูกหนา จึงทำให้มีการบีบตัวแรง และฉีดยาให้ พร้อมกับให้ยามาทานค่ะ หลังจากนั้นก็เป็นประจำเดือนเพียง10วันไม่มีอาการปวดประจำท้องน้อยเลย2-3เดือน แต่หลังจากนั้นก็เริ่มมีอาการเหมือนเดิม หนูจะปวดท้องน้อยแบบหน่วงๆมีเมือกสีน้ำตาลออกมา ปวดหลัง ก่อนเป็นประจำเดือน ตอนเป็นประจำเดือนมักจะมีก้อนเนื้อหลุดออกมาด้วย เลือกประจำเดือนบางเดือนก็มีสีแดงสด บางครั้งก็เป็นสีเลือดหมู อยากจะถามคุณหมอว่าอาการเหล่านี้อันตรายไหมคะ

ประจำเดือนมามากผิดปกติ เกิดได้จากหลายอย่างครับ

เช่น
-ฮอรโมนที่ไม่สมดุล
-เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในเนื้อมดลูก
-เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่นอกเนื้อมดลูก
-เนื้องอกในมดลูก
-อุ้งเชิงกรานอักเสบ
-ถุงน้ำหลายใบในรังไข่
เป็นต้น

แนะนำไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจเพิ่มเติมจะได้รักษาได้ถูกต้องครับ

สวัสดีคครับ
อาการของคนไข้ อาจเข้าได้กับอาการประจำเดือนมามากครับ
แนะนำให้ไปพบแพทย์ครับ เนื่องจากหากประจำเดือนมามากๆ อาจเป็นอันตรายได้ เนื่องจากการเสียเลือด อาจทำให้คนไข้ อ่อนเพลีย หรือ ซีดได้ครับ

อาการประจำเดือนมามาก หมายถึง ประจำเดือนที่
1)ใช้ผ้าอนามัยมากกว่า 1 แผ่นใหญ่ต่อชั่วโมง
2)ประจำเดือนมามากกว่า 10 วัน
3)มีอาการที่เกิดขึ้นจากภาวะมีเลือดออก เช่น หน้ามืด เป็นลม ซีดลง ต้องเติมเลือด เป็นต้น
>>ซึ่งเมื่อคนไข้ มีประจำเดือนมามาก เป็นสิ่งที่ต้อวหาสาเหตุค่ะ ซึ่งสาเหตุมีหลากหลาย ได้แก่
1.สาเหตุที่ระบบสืบพันธุ์ เช่น เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ก้อนเนื้อในมดลูก เป็นต้น

2.ฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ไทรอยด์ ฮอร์โมนเพศ

3.ระบบการแข็งตัวของเลือด เช่น เกล็ดเลือดต่ำ การทำงานของเกล็ดเลือดผิดปรกติ เป็นต้น

ดังนั้น คนไข้ หากคนไจ้มีอาการที่เข้าได้กับประจำเดือนมามาก ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมครับ