สวัสดีครับหมอ พอดีแฟนผมหยุดทานยาคุมกำเนิดในข่วงเดือนที่แล้วตอนประจำเดือนมาพอดี ( 23 ธ.ค. ) และหลังจากประจำเดือนหมด ผมกับแฟนมีเพศสัมพันธ์กัน 2 ครั้ง แต่ในสองครั้งนั้นผมใช้ถุงยาง และผมทำไม่เสร็จภารกิจทั้งสองครั้งเลย และหลังจากมีเพศสัมพันธ์เสร็จ ผมเช็คถุงยางทุกครั้ง ไม่มีรั่ว ไม่มีแตกเลย แต่ตอนนี้ 24 ม.ค. แล้ว ประจำเดือนยังไม่มาเลย เป็นไปได้มั้ยครับว่าท้อง หรือเป็นเพราะยาคุมกำเนิด ขอบคุณครับ

หากป้องกันด้วยถุงยางตลอดไม่หลุดรั่วฉีกขาด ก้ไม่เสี่ยงตั้งครรภ์ครับ

แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังเสี่ยง14วันขึ้นไปก่อนครับ

และ หากไม่ตั้งครรภ์
อาจเกิดจาก
เนื้องอกมดลูก
ซีสต์ที่รังไข่
ฮอร์โมนเพศไม่สมดุล
เป็นต้นครับ

สวัสดีค่ะ
ถุงยางอนามัย สามารถป้องกันการตั้งครภ์ได้98-99%ถ้าเช็คแล้วไม่ทีรอยรั่วสาเหตุที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ได้แก่
-อ้วน
-เครียด
-ถุงร้ำรังไข่
-เนื้องอกโพรงมดลูก

แนะนำว่าสามารถตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันหลังมีเพศสัมพันธ์14วันจึ้นไป

สวัสดีครับ
โดยปกติแล้วหลังหยุดรับประทานยาคุมประจำเดือนก็จะต้องมาตามปกติอยู่ครับ

ส่วนการมีเพศสัมพันธ์ที่ได้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยอย่างถูกต้องแล้วก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2% ครับ ในกรณีนี้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มาก

แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไป หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าใช้ถุงยางถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

เมื่อไม่มีการใช้ยาคุมรายเดือนแล้ว การมาหรือไม่มาของประจำเดือนจะขึ้นกับฮอร์โมนตามธรรมชาติ ซึ่งอาจคลาดเคลื่อนได้จากความเครียด, การเจ็บป่วย หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัย

ถ้ากังวลว่าอาจตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

และถ้าไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

ประจำเดือนอาจมีการคลาดเคลื่อนไปนานมากน้อยแต่ไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับสาเหตุครับ โดยถ้าหากไม่มีการตั้งครรภ์ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ไทรอยด์เป็นพิษ
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
เป็นต้น
ซึ่งถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ