ร้องไห้บ่อย ไม่มีความสุข กังวลว่าคนอื่นจะชอบเรามั้ยจะรักเรามั้ย เวลาแม่ดุหรือบ่น ก็ชอยเก็บมาคิดเยอะ คิดว่าแม่ไม่รักเราบ้าง คิดอยากฆ่าตัวตาย คิดอยากหนีออกจากบ้านไปอยู่คนเดียว คิดว่าตนเองไม่มีประโยชน์แบบนี้เรียกว่าเป็นโรคซึมเศร้ามั้ยคะ

สวัสดีครับ
การที่รู้สึกไม่มีความสุข มีความคิดในเชิงลบกับตัวเองบ่อยๆ คิดว่าตนเองไม่เป็นที่ต้องการของคนอื่น และใีความคิดอยากฆ่าตัวตายนั้นถือเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรติดต่อกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เกิดขึ้นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าเ้วยตัวเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

หมอแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการให้แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

ลิงค์ไม่สามารถกดเข้าไปโดยตรงได้ครับ

ให้ใช้วิธี copy ไปวางในเว็บเบราว์เซอร์แทนครับ

สวัสดีครับ

ในเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ จากที่เล่ามาก็จะพบว่ามีความคิดในเรื่องฆ่าตัวตาย คิดว่าตนเองไม่มีประโยชน์ และตัวน้องเองก็ทะเลาะกับคุณแม่บ้างเลยทำให้เกิดความคิดว่าตนเองไม่มีใคร ต้องคอยคิดว่าต้องทำตนเองให้คนอื่นรัก กังวลว่าคนอื่นจะไม่รัก ไม่ชอบเรา และรู้สึกว่าอยากหนีออกจากบ้าน

ปัญหาเหล่านี้ผมเข้าใจว่าอาจจะเกิดจากปัญหาที่บ้านที่คุณแม่ดุด่าบ่อย อาจจะด้วยคำพูด ด้วยอะไรหลายๆอย่างทำให้ตัวน้องรู้สึกว่าตนเองจะต้องทำให้คนอื่นๆรัก รู้สึกเครียด และไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต ซึ่งตรงจุดนี้ก็จะเห็นได้ว่าความรู้สึกเหล่านี้เข้ามารบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอยู่บ้าง ซึ่งตรงนี้สิ่งที่น้องสามารถทำได้อย่างแรกเลยคือการเข้าพบจิตแพทย์เพื่อรับการประเมินและวินิจฉัย เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป อย่างหนึ่งเลยเมื่อไปหาจิตแพทย์สิ่งที่ได้รับอาจจะเป็นในเรื่องของการทานยา หรือการรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อช่วยให้น้องได้มีการจัดการกับอารมณ์ ความคิด และสามารถพัฒนาทักษะที่จะใช้จัดการกับเรื่องอารมณ์ด้านลบที่เรามีได้อย่างมีประสิทธิภาพนะครับ ซึ่งการไปหาจิตแพทย์นี้ก็สามารถไปเองได้โดยที่ไม่ต้องมีผู้ปกครองครับ แต่หากจะแนะนำก็คือ การพาผู้ปกครองมามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ก็จะทำให้การบำบัดรักษามีประสิทธิภาพมากกว่า

ในส่วนของการดูแลตนเองก่อนที่จะเข้าพบแพทย์ ผมเข้าใจว่าการดุด่าของคุณแม่ เป็นสิ่งที่กระทบกับจิตใจของเรามาก และอยากให้ตระหนักนะครับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการทารุณกรรมทางด้านจิตใจซึ่งเด็กไม่ควรที่จะได้รับจากผู้ปกครอง ในส่วนนี้หากว่ามีเพื่อนสนิทหรือบุคคลในครอบครัวที่เราไว้ใจ ก็สามารถลองเล่าเรื่องแบ่งปันความรู้สึกเหล่านี้กับเขาได้นะครับ อยากให้ลองแบ่งเวลามาดูแลตนเอง ทำกิจกรรมที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายหรือมีความสุขบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง หรือฟังเพลง อาจจะทำสิ่งเล็กๆ หางานอดิเรกทำที่จะไม่ลำบากกับตารางเวลาชีวิตของเรา จากนั้นพยายามทำสิ่งเหล่านี้ให้กลายเป็นกิจวัตรครับ การทำสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นตัวช่วยเล็กๆที่พอจะทำให้ตัวน้องสามารถสัมผัสกับความรู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง

สุดท้ายนี้สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้ตัวน้องสามารถเล่าความรู้สึกให้กับเจ้าหน้าที่ฟังได้นะครับ โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมมาครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ตัวน้องสามารถผ่านพ้นเรื่องตรงนี้ไปได้นะครับ แล้วก็หากมีคำถามอื่นๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ

หากสงสัยเกี่ยวกับอาการของโรคซึมเศร้า สามารถเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ

แต่หากประเมินแล้วอาการไม่เข้าข่ายโรคซึมเศร้า อาจเป็นลักษณะของบุคลิกภาพที่ขาดความมั่นใจ จนทำให้เกิดความวิตกกังวลไปต่างๆนาๆ และหากมีอาการต่อเนื่องเกินกว่า 2 สัปดาห์ โดยไม่สามารถปรับตัวให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ แบบนี้ควรไปพบจิตแพทย์ ประเมินอาการ วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ