December 05, 2018 13:29
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ลักษณะที่เป็นนั้นมีอาการท้องเสียปริมาณมาก. ร่วมกับมีถ่ายเป็นมูก และมีอาการปวดท้องนั้นสงสัย ในกลุ่มของโรคติดเชื้อมากที่สุดคะ ซึ่งในคนปกติที่ไม่มีโรคประจำตัวอะไร มักเกิดจากการกินอาหารที่ผิดสุขลักษณะคะ โดยเฉพาะอาหารทะเลสด หรือหอยสด หรือไข่ดิบเป็นต้นคะ โดยเบื้องต้นไม่แนะนำให้ซื้อยาฆ่าเชื้อมารับประทานเองคะ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอุจจาระว่ามีการติดเชื้อจริงหรือไม่คะ และใช่เป็นจากโรคติดเชื้อหรือไม่คะ. แนะนำให้ไปรพ.ตามสิทธิการรักษาคะ แต่หากไปรพ.รัฐทั่วไปค่าตรวจอุจจารประมาณ 200-300 บาทคะ ส่วนค่ายาขึ้นกับว่าได้รับนยาอะไรบ้างคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
จากอาการถ่ายเหลวมีมูกปน กลิ่นเหม็นคาว ปวดบิดท้อง เกิดได้จากการติดเชื้อในลำไส้ครับ ทำให้มีอาการท้องเสีย infected diarrhea สาเหตุที่พบได้บ่อยคือ เชื้อแบคทีเรีย vibrio Cholerae , samonella รวมถึงการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆ จากอาหาร และ นอกจากนี้ ปาราสิต ไข่พยาธิก้ทำให้มีอาการท้องเสียได้ ที่พบบ่อยเช่น blastocystis hominis ครับ
ฉะนั้นควรไปพบแพทย์เพื่อนรวจอุจจาระดูการติดเชื้อและรับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสมกับโรคครับ
ในระหว่างนี้เพื่อป้องกันภาวะเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุล เช่นโพแทสเซียมต่ำ ควรดื่มน้ำเกลือแร่ ภายหลังถ่ายเหลวเพื่อชดเชยครับ
ยาเพื่อลดการถ่ายเหลว เช่น loperamide รับประทาน2เม็ดทันทีและ อีก1เม็ดในทุก4-6ชั่วโมงตามต้องการ, smecta 1ซอง วันละ3ครั้ง หลังอาหารครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
พอดีถ่ายเหลวมา 2 วันประมาณ 10 ครั้งค่ะ เป็นสีขาวขุ่น ละมีกลิ่น เวลาปวดจะปวดบิด กินอะไรก็ออกมาค่ะ อยากทราบต้องทานยาอะไร แล้ว ค่ารักษา รพ มหาชัย ประมารเท่ารัยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)