October 07, 2018 23:04
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการดังกล่าว เข้าได้กับ ลมพิษเฉียบพลันค่ะ ซึ่ง ลมพิษเฉียบพลันนั้น อาจมาจากหลายสาเหตุ ซึ่งถ้ามีประวัติว่าคนไข้เพิ่งไปทานอาหารทะเลมา และจากการที่คนไข้เคยมีประวัติแพ้อยู่เดิม ก็อาจเกิดจากการแพ้อาหารได้ แต่ถ้าไม่ได้ไปกินมา ก็ยังมีสาเหตุอื่นๆอีกดังนี้ค่ะ
สำหรับลมพิษ เฉียบพลัน สาเหตุที่พบบ่อยสุด คือ
1.การ ติดเชื้อ ได้แก่ เป็นหวัดคัดจมูก ติดเชื้อไวรัส ซึ่ง เป็นได้หลายชนิดค่ะ ตั้งแต่ adenovirus ,rhinovirus, rsv เป็นต้น หรือ เกิดจาก เชื้อ แบคทีเรีย ก็ได้ เช่น mycoplasma ค่ะ ซึ่งจะบอกได้ว่าเป็นเชื้ออะไรที่ชัดเจน อาจบอกได้ยากค่ะ จะต้องอาศัยการตรวจน้ำมูก หรือ ตรวจเลือด ซึ่งวิธีการค่อนข้างยุ่งยาก และค่าใช้จ่ายสูงค่ะ ส่วนใหญ่ จึงไม่ได้ทำกัน เนื่องจาก ลมพิษจากการติดเชื้อนั้น มักหายไปได้เอง หลังจากการติดเชื้อดีขึ้น โดยใช้เวลาไม่นานค่ะ
2. การแพ้ยา เช่น ยากลุ่ม nsaid ซึ่ง คนไข้ ควรจะต้องมีประวัติการได้รับยาต่างๆ ที่น่าสงสัยมาก่อนค่ะ
3.อาหาร ซึ่งอาการจะเกิดทันทีหลังทานอาหารที่แพ้ค่ะ มักจะเป็นอาหารที่แพ้อยู่แล้ว หรือบังเอิญทานอาหารที่แพ้เข้าไปค่ะ
การรักษาชนิดเฉียบพลันคือ รักษาตามสาเหตุและรักษาตามอาการค่ะ เช่น การรักษา ไข้หวัดไอ ให้ดี ให้ยาแก้คัน ยาแก้แพ้ทาน อาการจะค่อยๆดีขึ้น เมื่อการติดเชื้อหายสนิท
นอกจากนี้ ให้สังเกตอาการที่รุนแรง ที่ต้องไป รพ ทันที ได้แก่ อาการของ anaphylaxis คือ การแพ้อย่างรุนแรง ได้แก่ อาการแน่นหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน หน้ามืด เป็นลม ความดันโลหิตตก มีลมพิษทั่วตัว ปากบวมหน้าบวม เป็นต้น ถ้ามีอาการดังนี้ ให้รีบไป รพ ทันทีค่ะ
**ลมพิษเฉียบพลัน มักเป็นๆหายๆ ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ค่ะ ส่วนใหญ่ สาเหตุนอกจากแพ้แล้ว การติดเชื้อ พบบ่อยที่สุดคะ
**หากเกิน 1-2 สัปดาห์อาการเป็นๆหายๆไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์
**หากเกิน 6สัปดาห์ จะกล่ยเป็นลมพิษเรื้อรัง ซึ่งสาเหตุแตกค่างกันค่อนข้างมาก และรักษาคนละแบบค่ะ
******การทำ skin prick test ในลมพิษเฉียบพลัน มักไม่มีประโยชน์ หากประวัติการแพ้สารนั้นๆก่อนหน้านี้ไม่ชัดเจนค่ะ ***
ส่วนเรื่องอาหารทะเล ถ้าทราบว่าแพ้อยู่แล้ว ควรหลักเลี่ยงค่ะ แต่หากสงสัยการแพ้ และคิดว่าค้องการพิสูจน์ คนไข้ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อทำ oral challenge test ค่ะ ซึ่งให้ประโยชน์สูงสุด และถ้า test ผ่าน คนไข้จะกลับมาทานอาหารทะเลได้ตามปกติค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ผื่นจากรูปที่แนบมานั้นมีลักษณะเป็นผื่นแดงนูนทั่วๆ ซึ่งอาจเข้าได้กับลักษณะของผื่นแพ้ได้ครับ
ในเบื้องต้นนั้นแนะนำให้สำรวจดูก่อนครับว่าช่วงนี้มีสาเหตุอะไรที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือไม่ เช่น
- มีการเปลี่ยนสบู่ ครีมต่างๆที่ใช้
- เปลี่ยนผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- สิ่งแวดล้อมในการทำงานต่างๆ
- ยาที่รับประทานอยู่ในปัจจุบัน
- อาหารที่รับประทานในช่วงนี้
- ผื่นขึ้นในช่วงเวลาที่ทำอะไรหรือช่วงเวลาใดของวัน
ถ้าหากมีสาเหตุอะไรที่ทำให้สงสัย ก็ให้พยายามหลีกเลี่ยงจากสาเหตุนั้นครับ
นอกจากนี้ก็อาจรับประทานยาแก้แพ้และดูว่าผื่นจะยุบลงหรือไม่ครับ
ในกรณีที่รับประทานยาแก้แพ้แล้วอาการไม่ดีขึ้น มีผื่นลามมากขึ้น มีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น หอบเหนื่อย ปากบวมตาบวม หรือหาสาเหตุของอาการแพ้ได้ไม่ชัดเจน ก็แนะนำให้ไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจหาสาเหตุและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ
รวมถึงอาจต้องตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ด้วยวิธีสะกิดสารก่อภูมิแพ้ที่ผิวหนัง (Skin prick test) เพิ่มเติมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทั่งตัวของผมเป็นผื่นเหมือนรูปที่แนบมาประมาณ 2 สัปดาห์ครับ แต่ไม่คันเลย มีคันบ้างบางครั้งครับ เป็นผื่นแดงทั้งตัว เคยมีประวัติแพ้อาหารทะเล แต่ไม่แน่ใจว่าผื่นแบบนี้คือผื่นแพ้หรือไม่ จึงขอสอบถามครับ ว่าผื่นแดงๆ เต็มตัวแบบนี้ผมแพ้อะไร หรือเป็นโรคอะไรหรือไม่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)