สวัสดีค่ะ มีเพศสัมพันธ์แล้วมีเลือดออก แต่ประจำเดือนหมดไปประมาณ 2 อาทิตย์ได้แล้วค่ะ ปกติทานยาคุมมาหลายเดือนแล้วมีผลมั้ยคะ แต่ว่าไม่ได้มีอาการปวดท้องเจ็บหรือคันที่อวัยวะเพศเลยค่ะ เลือดที่ออกมาก็ไม่ได้น้อยมากค่ะ เลือดมีสีแดงไม่เข้มไม่อ่อน อยากทราบว่าอาการแบบนี้น่าเป็นห่วงมั้ยคะ แล้วสาเหตุน่าจะเกิดจากอะไรได้บ้างคะ แล้วทานยาคุมรายเดือนมีการตกไข่ในแต่ละเดือนไหมคะ

สวัสดีครับ การรับประทานยาคุมแบบรายเดือนอาจมีผลข้างเคียงให้มีเลือดออกผิดปกติระหว่างรอบเดือนได้โดยเฉพาะในการรับประทานยาคุม 1-3 แผงแรกแต่ถ้าหากรับประทานยาตุมมานานกว่านี้โอกาสที่จะเกิดเลือดออกระหว่างรอบเดือนจากยาคุมก็มีน้อยลงครับ และถ้าหากที่ผ่านมารับประทานยาคุมรายเดือนอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอดก็มักจะไม่มีการตกไข่เกิดขึ้นในช่วงนี้ครับ การมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์นั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น - มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง - มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติของผู้หญิงบางคน แต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย - มีการอักเสบติดเชื้อของช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกราน - โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส - เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ - เนื้องอกมดลูก - ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก หยุดยาก หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยๆ หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ