รอบเดือนปกติ 28 วัน สม่ำเสมอ ประจำเดือนมาล่าสุดวันที่ 18 มกราคม - 28 มกราคม (11วัน) โดยก่อนประจำเดือนครั้งล่าสุดจะมาได้ใช้ยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด ไม่ทันถึงเวลากินเม็ดที่สองประจำเดือนมาเลยหยุดกิน และในวันที่ 18 มกราคมนั้นเอง ได้เริ่มกินยาคุมแบบปกติแผง 28 เม็ด กินไปได้ 4 วันก็หยุด ต่อมาวันที่ 9 กุมภาพันธ์ (วันที่ 23 ของรอบเดือนปกติ) มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันและได้ใช้ยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกภายใน 2 ชั่วโมง และกินเม็ดที่สองถูกต้องตามวิธี วันนี้เข้าวันที่ 31 ของรอบเดือนแล้ว เท่ากับว่าประจำเดือนขาดไปได้ 3 วัน พร้อมกับมีอาการคัดหน้าอก กับมีตกขาวมาได้ 3-4 วันแล้ว จึงมีคำถามต่อไปนี้ค่ะ 1.ยาคุมกำเนิดที่ได้กินไป 4 เม็ดแล้วหยุดกินไปนั้นมีผลทำให้ไข่ตกล่าช้าไม่เป็นไปตามรอบเดือนปกติหรือไม่? (ทำให้ประจำเดือนล่าช้าไปด้วย) 2.ลักษณะนี้มีโอกาสตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหน? 3.สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ได้ตั้งแต่วันที่เท่าไรจึงจะได้ผลที่แม่นยำ หากประจำเดือนยังไม่มา? 4.ความเครียดเพราะกังวลประจำเดือนไม่มา กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมีผลกับประจำเดือนที่ไม่มาหรือไม่? ขอบคุณค่ะ

1. ยาคุมกำเนิดที่ได้กินไป 4 เม็ดแล้วหยุดกินไปนั้นมีผลทำให้ไข่ตกล่าช้าไม่เป็นไปตามรอบเดือนปกติหรือไม่? (ทำให้ประจำเดือนล่าช้าไปด้วย)

ความแปรปรวนของฮอร์โมนอาจส่งผลให้ไข่ตกเร็วหรือช้ากว่าที่ควรจะเป็นได้ค่ะ แต่เนื่องจากผู้ถามรับประทานเพียงไม่กี่วันในช่วงแรกของรอบประจำเดือน จึงไม่น่าจะมีผลกระทบมาก อีกทั้งในกรณีนี้มีความเป็นไปได้ที่ประจำเดือนจะยังไม่มาจากสาเหตุอื่น ๆ ได้เช่นกัน จึงไม่อาจสรุปได้แน่ชัดว่าสาเหตุที่ประจำเดือนยังไม่มาเป็นเพราะการใช้ยาคุมรายเดือนดังกล่าวค่ะ

2. ลักษณะนี้มีโอกาสตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหน?

มีโอกาสตั้งครรภ์อย่างน้อย 15% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉินค่ะ

3. สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ได้ตั้งแต่วันที่เท่าไรจึงจะได้ผลที่แม่นยำ หากประจำเดือนยังไม่มา?

หากตรวจด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ แนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน โดยใช้ปัสสาวะแรกของวัน และตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

4. ความเครียดเพราะกังวลประจำเดือนไม่มา กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมีผลกับประจำเดือนที่ไม่มาหรือไม่?

ความเครียด, การเจ็บป่วย (รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก), การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน (ในกรณีนี้คือยาคุมฉุกเฉิน) หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัย อาจส่งผลกระทบให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ค่ะ
..
..
..
ในกรณีนี้ แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ เพราะอาการที่พบในตอนนี้อาจเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนก็ได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม หากรอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อยืนยันผลให้ชัดเจนนะคะ

ประจำเดือนปกติ ควรจะมีปริมาณเลือดมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ แม้ว่าควรจะมาตรงตามรอบปกติ แต่ก็อาจคลาดเคลื่อนได้จากความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัย

หากเลือดที่ออกมามีลักษณะตามที่กล่าวไปนี้ ก็น่าจะเป็นประจำเดือนที่มาคลาดเคลื่อนไปจากปกติเล็กน้อยนั่นเองนะคะ และเมื่อมีประจำเดือนมาแล้วก็หมายถึงไม่มีการตั้งครรภ์นั่นเองค่ะ

แต่ถ้าผู้ถามไม่มั่นใจ หรือกังวลมาก ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้นะคะ
..
..
..
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม แนะนำให้ตั้งกระทู้คำถามใหม่นะคะ การถามต่อในกระทู้เดิมของผู้ถามรายอื่น นอกจากทำให้สับสนแล้ว ยังอาจจะรบกวนเจ้าของคำถามเดิมด้วยค่ะ