ผมมีเพศสัมพันกับแฟนวันที่25กันยาหลั่งใน แล้ววันที่25ก็กินยาคุมฉุกเฉินเลยตอน23.00นาฬิกา เธอเป็นประจำเดือนอยู่แล้วในวันที่21-26กันยา มีอะไรกันในช่วงมีประจำเดือนครับ แล้วประจำเดือนก็มาอีกทีในวันที่2-6ตุลาคม แล้วจนถึงวันนี้26ตุลา ประจำเดือนก็ยังไม่มาอีกเลย แฟนผมกังวลมากว่าจะท้อง มีสิทธิฺที่ประจำเดือนจะเลื่อนโดยเป็นผลจากยาคุมไหมครับ แล้วเลือดที่มาในวันที่2-6เปนประจำเดือนจริงๆหรือเปล่า แบบนี้จะท้องไหมครับ

สวัสดีค่ะ โดยปกติแล้วประจำเดือนมักจะมาใกล้เคียง ช่วงที่มีประจำเดือนปกติค่ะ ส่วนเลือดที่ออกวันที่ 2-6 น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิด ยาคุมฉุกเฉิน สามารถทำให้ประจำเดือนเลื่อนได้ แต่อย่างไรก้อตาม เพื่อผลที่แน่นอน แนะนำซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจค่ะ โดยใช้ปัสสาวะตอนเช้า เพื่อผลที่แม่นยำค่ะ

สวัสดีครับ
ถ้าหากในช่วงวันที่มีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นช่วงที่มีประจำเดือนตามปกติ เลือดที่ออกมาในวันที่ 2-6 ต.ค. ก็ไม่ควรที่จะเป็นประจำเดือนครับ เพราะเป็นช่วงที่เร็วเกินกว่าที่ประจำเดือนจะมาตามปกติ แต่น่าจะเป็นเลือดที่ออกจากผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินมากกว่า

การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีประจำเดือนนั้นมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยมากครับ เนื่องจากมักจะไม่มีการตกไข่ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ถ้าหากมีการขาดประจำเดือนไปก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็ไม่ต้องกังวลครับ

โดยปกติ คนเราจะมีประจำเดือนมาเร็วมาช้าได้บวกลบเจ็ดวันครับ ถ้ามากกว่านี้ ก็อาจมีสาเหตุ เช่น ความเครียด การตั้งครรภ์

หรืออื่นๆเช่น โรคถุงน้ำรังไข่อาการคือ ประจำเดือนมักมาไม่สม่ำเสมอร่วมกับพบลักษณะของฮอรโมนเพศชาย(มีสิว มีขนเยอะ) หรือ บางครั้งความผิดปกติของต่อมใต้สมองซึ่งมีหน้าที่หลั่งฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ก็ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ครับหากประจำเดือนขาดนานๆ ร่วมกับบีบหัวนมเเล้วมีน้ำนมไหลออกมา หรืออาจเกิดจากการตกไข่ผิดปกติจากสาเหตุของรังไข่เอง

ถ้าหากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้วก็จะทำให้บอกได้ยากครับว่าเมื่อไหร่ที่เป็นประจำเดือนจริง และเมื่อไหร่ที่จะมีประจำเดือนมาอีกครั้ง

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ด้วยวิธีการตามที่หมอแนะนำไปจะช่วยยืนยันได้ดีที่สุดครับ

อาการท้องน้อยบวมนั้นไม่ได้เป็นการบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ โดยเฉพาะถ้าเหตุการณ์ที่ทำให้สงสัยว่าจะทำให้ตั้งครรภ์เพิ่งผ่านไปเพียง 1 เดือน เนื่องจากในกรณีที่มีการตั้งครรภ์จริงหน้าท้องมักจะเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นจนสามารถคลำพบความเปลี่ยนแปลงได้เมื่อตั้งครรภ์ไปอย่างน้อย 3-4 เดือนครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูจะดีกว่าการที่มานั่งกังวลไปเองครับ

ถ้าหากหลังการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 25 ก.ย. ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกเลยก็สามารถตรวจได้ครับ เพราะห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายมาเกิน 14 วันแล้ว

แต่ควรใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจเพื่อให้ได้ผลตรวจที่แม่นยำครับ

ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์หลังจากนั้นอีก การตรวจการตั้งครรภ์ในตอนนี้จะไม่สามารถบอกได้ว่ามีการตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 14 วันก่อนการตรวจหรือไม่ครับ เช่น ถ้าตรวจในวันพรุ่งนี้(27 ต.ค.)แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ก็จะบอกได้แค่ว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 13 ต.ค.ไม่ทำให้เกิดการตั้งครรภ์ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นหลังจากนั้นหรือไม่ครับ เพราะถึงแม้จะใช้ถุงยางอนามัยก็ยังมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2%

หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ ซึ่งมักไม่เกิน 7 วันครับ และการรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็มักทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไม่เกิน 4-5 วัน(ในคนที่ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ)

ในกรณีนี้เลือดที่ออกผิดปกติจึงน่าจะเป็นผลมาจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ยาคุมฉุกเฉินมากกว่าครับ เช่น เป็นลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติของแฟนคุณเอง ทำให้คาดเดาได้ยากว่าหลังจากนี้จะมีเลือดหรือประจำเดือนออกมาในลักษณะใดครับ

ถ้าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์มาในช่วงที่ไม่เกิน 14 วันก่อนหน้านี้ การตรวจในตอนนี้ถ้าตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ก็จะไม่ให้ผลตรวจที่น่าเชื่อถือครับ

ถูกต้องครับ เพราะการมีประจำเดือนเป็นการบ่งบอกว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นในรอบเดือนนั้น

แต่ในทางกลับกัน การขาดประจำเดือนก็ไม่จำเป็นต้องเกิดจากการตั้งครรภ์เสมอไปครับ

ถูกต้องครับ แต่ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อยืนยันว่าสาเหตุของการขาดประจำเดือนไม่ได้เกิดจากการตั้งครรภ์ก่อนครับ

ให้ตรวจการตั้งครรภ์โดยใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าของวันที่ 4 พ.ย. โดยในระหว่างนี้ให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนครับ

ถ้าหากประจำเดือนมาในระหว่างนี้ โดยมีลักษณะเหมือนประจำเดือนปกติในรอบเดือนที่ผ่านมา ก็จะมั่นใจได้ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ได้เช่นกันครับ

แต่ถ้าหากประจำเดือนมีลักษณะที่ผิดปกติไปจากเดิมก็ยังแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์อยู่ครับ เพราะเลือดที่ออกมาอาจไม่ใช่ประจำเดือนจริง

ถ้าหากเลือดที่ออกมามีน้อยกว่าประจำเดือนตามปกติก็ยังมีความเป็นไปได้ที่เลือดที่ออกมานั้นจะยังไม่ใช่ประจำเดือนครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รอตรวจการตั้งครรภ์ตามที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ