December 29, 2017 00:21
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
จากที่เล่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับบุคคลทั่วๆไปค่ะ ไม่ใช่โรคทางการแพทย์ที่ต้องการทำการรักษา สำหรับการจัดการอารมณ์ตัวเองคือ ถ้ารู้ว่ากำลังโกรธให้พยายามรับรู้ตัวเองก่อนเช่น หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว รู้สึกร้อนไปทั้งตัว จากนั้นก็ให้พยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองโดยให้หายใจเข้าออกช้าๆ และมีสติว่าจะทำอะไรต่อไป การที่จะด่าหรือระเบิดออกไปนั้นเวลาโกรธเกิดจากการไม่มีสติหรือไม่ได้คิดก่อนพูด พยายามยอมรับกับความโกรธและความผิดพลาดจากคนรอบข้างที่เกิดขึ้น ให้พยายามนึกว่าการที่จะหาคนรับผิดในสถานการณ์นั้นๆยิ่งทำให้เหตุการณ์แย่ขึ้น แทนที่จะคิดว่าใครผิด ให้พยายามคิดว่าควรแก้สถานการณ์นี้ยังไง ถ้าควบคุมไม่ได้และรู้สึกว่ากำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาให้พยายามออกจากตรงนั้น ให้สงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยกลับไปคุยใหม่ และลองพยายามเข้าใจอีกฝ่ายโดยที่ลองเอาตัวเราสมมุติเป็นอีกฝ่าย ให้คิดถึงตัวเองน้อยลง ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ให้ลองมองภาพรวม และช่วยกันแก้ปัญหาและเรียนรู้จากประสบการณ์ไปค่ะ และถ้าอารมณ์โกรธรุนแรงมากจนมีผลต่อการดำรงชีวิตประจำวัน ควรไปพบจิตแพทย์อาจต้องมีการเข้ารับการทำจิตบำบัดร่วมด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณค่ะ
แต่ดิฉันคิดว่าความโมโหดิฉันรุนแรงมากค่ะ
เพราะจากคำพูดที่ไร้ซึ่งความเห็นอกเห็นใจในยามเราทุกข์ที่สุดในชีวิต...ที่ว่า
เด็กมันเล็กมันไม่เหลืออะไรหรอกเดี๋ยวให้สับปะเร่อเอาไปลอยให้ละกัน...มันฝังอยู่ในใจมาตลอด4ปีแล้ว
นับวันความเกลียดยิ่งรุนแรงขึ้น
สงสัยจะเป็นอะไรสักโรคแน่เลยค่ะ
ที่คุณหมอว่าให้คิดถึงตัวเองน้อยลง และลองคิดว่าเราเป็นอีกฝ่ายนึง
คิดแล้วค่ะ และฟันธงแน่นอนว่าดิฉันจะไม่มีวันพูดอะไรที่แสดงถึงความแล้งน้ำใจแบบนี้ ในยามที่คนคนนึงเพิ่งเสียลูก อย่างแน่นอนที่สุดค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
จากที่เล่ามายังไม่เข้ากับโรคหรือบุคลิกทางจิตเวชอะไรร้ายแรง แต่ลองให้ปรับเปลี่ยนที่ความคิด การเก็บเอาคำพูดมาคิดหรือแค้นก็ไม่ได้เป็นผลดีกับตัวใครเลยค่ะ กลับส่งผลร้ายต่อตัวเราเอง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มันยากมากๆๆเลยค่ะ ทำอย่างไรดีคะ มันวนเวียนๆๆๆๆอยู่หลายปีแล้ว
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ทำไมตอนที่ทานยา หงุดหงิดน้อยลง และไม่โมโหง่ายคะ
แบบนี้ถ้าทานยาอีกจะช่วยได้มั้ยคะ
แต่ลูกทานนมแม่อยู่ ยามีผลกับน้ำนมมั้ยคะ
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
พยายามเลิกคิดค่ะ หรือถ้ากำลังจะคิดให้ลองหาตัวดึงดูดความสนใจ เช่นคิดเรื่องอื่น หาอะไรทำแก้ผ่อนคลาย อาจยากในช่วงแรกๆแต่หลังๆพอเริ่มชินสมองก็จะไม่คิดหรือถ้าคิดก็จะไม่รู้สึกอะไร แต่ถ้ามัวคิดแล้วโกรธสมองก็จะจำและตอบสนองแบบเดิม เวลาคิดเรื่องนี้หรือเจอเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแม่สามีก็จะทำให้โกรธแล้วก็จะวนไปแบบนี้ ดังนั้นถ้าต้องการอยากเปลี่ยนตัวเองต้องฝึกอย่างที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
แนะนำพบจิตแพทย์นะคะ คุณควรได้รับการรักษาเกี่ยวกับความผิดปกติของอารมณ์การรักษาเบื้องต้นอาจต้องใช้ยานะคะ เมื่อยาออกฤทธิ์ช่วยปรับสภาพอารมณ์ของคุณได้ระดับนึงจากนั้นก็ทำบำบัด เริ่มจากเทคนิคการรู้จักอารมณ์ การควบคุมจัดการอารมณ์และความคิดที่เป็นลบ การผ่อนคลายความตึงเครียด เป็นต้นค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อ้าว แล้วหมอคนเมื่อคืนบอกว่าไม่ใช่อาการที่ต้องรักษา แสดงว่าไมใช่นักจิตวิทยาใช่มั้ยคะ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การรักษาหรือบำบัดโดยจิตแพทย์ เป็นการรักษาที่มีกระบวนการที่ถูกต้อง โดยปกติผู้รับบริการที่มีปัญหาเช่นนี้จนกระทบกับความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง กระทบการใช้ชีวิตประจำวัน การปรับความคิดด้วยตัวเองมักไม่ได้ผล ควรที่จะรักษาด้วยยาควบคู่กับการบำบัดเป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลมากกว่าการควบคุมบังคับด้วยตนเองค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณค่ะ
แล้วควรพบแพทย์แขนงไหนคะ
เวชศาสตร์ครอบครัว หรืออะไรคะ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
แผนกจิตเวช ค่ะ เพราะจากปัญหาที่คุณกำลังประสบอยู่นั้นมันเรื้อรังมานานเป็นเดือนๆแล้ว เบื้องต้นคุณจะต้องพบพยาบาลซักประวัติอาการ จากนั้นนักจิตวิทยาคลินิกทำการประเมินสภาวะทางอารมณ์ ประเมินบุคลิกภาพและศักยภาพในการจัดการปัญหา แล้วส่งให้จิตแพทย์ทำการวิเคราะ์วินิจฉัยโรคและสั่งยาให้ค่ะ ยาจะออกฤทธิ์ภายใน 2สัปดาห์ เมื่ออาการตอบสนองต่อยาดีขึ้น จิตแพทย์จะส่งคุณทำจิตบำบัดดังที่กล่าวไว้ข้างต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
รพ.เอกชนทั่วไปมีแผนกนี้ใช่มั้ยหรือต้องเจาะจงที่รพ.ไหนคะ
แล้วลูกกินนมแม่อยู่ ยาจะมีผลต่อน้ำนมมั้ยคะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำตอบ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
รพ.เอกชนบางแห่งมีจิตแพทย์ค่ะ ยังไงลองโทรเช็คกับ รพ.ที่จะไปรับบริการก่อนก็ได้นะคะจะได้ไม่เสียเวลา ส่วนยาจิตเวชบางตัวที่มีผลต่อการให้นมบุตร คุณหมอจะหลีกเลี่ยงไม่ใช้และจะใช้ตัวอื่นที่ไม่มีผลกระทบแทน แต่หากคุณหมอพิจารณาเห็นว่าจำเป็นต้องใช้ยาตัวนั้นจริงๆ คุณอาจใช้นมผสมแทนนมแม่ก็ได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เรียนถามคุณหมอค่ะ ดิฉันมีอาการหงุดหงิดมากๆๆ เวลาที่ลูกดื้อหรือขัดคำสั่ง หงุดหงิด โมโหร้ายมากค่ะ ตอนนี้มีลูกชาย2คน คนโต5ขวบ ตอนนี้ก็ซน และดื้อมากๆๆๆๆๆๆ คนเล็กตอนนึ้1.3ขวบ เด็กคลอดก่อนกำหนดตอน 26วีคค่ะ รักษาตัวอยู่รพ.2เดือน ตลอด2เดือนก็มีแต่ดิฉันและสามีและลูกชายคนโตเท่านั้นที่กระเตงกันไป-กลับ เยี่ยมลูกชายคนเล็กทุกวัน ฝั่งแม่สามีไม่เคยถามไถ่อาการหลาน ไม่เคยแสดงน้ำใจไม่เคยมาเยี่ยมเลยค่ะ ซึ่งทำให้ดิฉันเคียดแค้นและไม่พอใจเป็นอย่างมาก เมื่อ4ปีที่แล้ว เคยเสียลูกชายตอนนั้นคลอดอายุครรภ์24วีค ลูกอยู่แค่12ชม.ก็เสีย และจากเหตุกาณ์นั้นแม่สามีและน้องสาวสามีพูดและแสดงอะไรหลายอย่างซึ่งฝังใจดิฉันและ ทำให้ดิฉันโกนธจนกลายเป็นเคียดแค้นเลยค่ะ และสามีดิฉันก็ไม่จัดการแก้ปัญหาอะไรเลย เหตุผลเพราะ"เค้าเป็นแม่!!" ทุกวันนี้เวลาถ้ามีเรื่องอะไรเกี่ยวกับแม่สามีเข้ามากระทบ ดิฉันกับสามีจะทะเลาะกันหนักมากๆๆๆ ทะเลาะกันทุกครั้งดิฉันจะรุนแรงขึ้นตลอด ไม่อยากจะรักษาอะไรไว้เลย อยากจะแตกหัก เลิกรากันไปเลยทุกครั้งค่ะ เพราะเกลียดโคตรเหง้าทางฝั่งสามีทุกคนเลยค่ะ และสามีก็ไม่แก้ปัญหาอะไร ตอนนี้กลายเป็นคนโมโหร้ายมาก ดิฉันเป็นอะไรคะ??? อะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมดเลย ลูกซน ลูกดื้อ หรือสามีขัดใจ ก็ระเบิดค่ะ ระเบิดแบบบ้านแตกเลยนะคะ เมื่อตอนเสียลูกใหม่ๆ ประมาณช่วงปี56 คุณหมอสูติประจำตัวเคยให้ทานยา sertraline 50mg. ค่ะ ช่วงทานก็ดีขึ้น แต่3ปีหลังมานี่ แย่ลงมากๆๆๆๆๆๆ และตอนนี้ก็แย่ลงไปอีกค่ะ ทำอย่างไรดีคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)