May 21, 2019 22:42
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ อาการปวดหน่วงๆ อัณฑะสามารถเกิดได้จาก
1.การติดเชื้อที่อัณฑะ หรือ อัณฑะอักเสบ จะมีอาการปวดหน่วงๆอัณฑะ มีไข้ อัณฑะบวม และแดง การรักษาคือ การกินยาฆ่าเชื้อ
2.การช่วยตัวเองมากเกินไป อัณฑะใช้งานหนักเกินไป จะเกิดการปวดหน่วงๆ ไม่มีไข้ ไม่บวม การรักษาคือ การนอนพัก งดช่วยตัวเอง
3.การที่ขั้วอัณฑะบิดขั้ว จะปวดมาก ปวดไม่หาย ไม่มีไข้ อัณฑะวางตัวผิดรูป การรักษาคือ การผ่าตัดครับ
4.เส้นเลือดขอดในอัณฑะ จะพบว่ามีก้อน
เพราะฉะนั้น การปวดอัณฑะเป็นได้หลายอย่างครับ แนะนำให้ ไปตรวจที่โรงพยาบาลครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
แนะนำให้พบ ศัลยแพท์ทางเดินปัสสาวะครับ
(ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสืบพันธ์ชายครับ)
อาการปวดหน่วงอัณฑะ สามารถเกิดจากได้หลายอย่างครับ
เช่น
1.ร้ายแรงสุด คือ การบิดขั้วของลูกอัณฑะ ( testicular torsion) ซึ่งเป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องไปพบแพทย์ เนื่องจาก หากทิ้งไว้นาน อาจทำให้อัณฑะขาดเลือดมาเลี้ยง ทำให้เนื้อเยือเน่าตาย ต้องตัดอัณฑะอาการคือ การปวด หรือ บวม หรือแดงขึ้นอย่างเฉียบพลันของลูกอัณฑะครับ
2.อุบัติเหตุ/ การกระทบกระแทกที่อัณฑะ เช้น การโดนบีบแรงๆ อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา อาจทำให้เกิด อันตรายต่อลูกอัณฑะได้ครับ เนื่องจากลูกอัณฑะเป็นบริเวณที่บอบบาง ห่อหุ้มด้วยถุงอัณฑะ ซึ่งเป็นหนังบางๆ เท่านั้น ทำให้การกระทบกระแทก หรืออันตรายเพียงเล็กน้อย สามารถก่อให้เกิดอันตรายกับอัณฑะได้ง่ายครับ สิ่งที่จะทำให้เกิดได้ เช่น อัณฑะฉีกขาด มีเลือดออก มีการอักเสบของท่อน้ำอสุจิ
3.การติดเชื้อ เช้น อัณฑะอักเสบ ท่อนำอสุจิอักเสบ เป็นต้น อาการอาจจะมี ปวด บวม แดง ร้อน หรือมีไข้ได้ครับ
4 การขาดเลือดไปเลี้ยงที่อัณฑะ จากปัญหาของเส้นเลือดต่างๆ
5พบไม่บ่อย เช่น ก้อนที่อัณฑะ. อาการอาจมาด้วยปวด อัณฑะสองข้างไม่เท่ากัน เป็นต้นครับ
ดังนั้น หากมีอาการปวดมาก คลื่นไส้อาเจียน อัณฑะบวม แดง หรือมีไข้ ให้รีบไปพบแพทย์ครับ
ส่วนอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว
อาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว มีหลายสาเหตุได้แก่
1.สาเหตุทางกาย เช่น ฮอร์โมนเพศผิดปกติ โรคของหลอดเลือดต่างๆ เช่นทหลอดเลือดอุดตัน ความดันโลหิตสูงและเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ เป็นต้น
2.สาเหตุทางจิตใจ เช่น ความไม่พร้อมมีอารมณ์ทางเพศ ความเครียดวิตกกังวล ความไม่มั่นใจ และภาวะซึมเศร้าเป็นต้น
หากมีความผิดปกติของการแข็งตัวของอวัยวะเพศ แนะนำให้ไปพบแพทย์ระบบทางทางเดินปัสสาวะชาย (urologist) หรือถ้าเหิดจากปัญหาทางจิตใจ แนะนำให้พบจิตแพทย์ครับ เนื่องจากการแก้ไขปัญหานี้ ต้องแก้ไขที่สาเหตุนะครับ
คำแนะนำเบื้องต้นที่จะช่วยเรื่องอวัยวะเพศแข็งตัวไม่เต็มที่หรือไม่แข็งตัว ได้แก่ การทำจิตใจให้แจ่มใส ออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ครับ
เนืองจากบุหรี่เป็นผลเสียต่อหลอดเลือด และการดื่มแอลกอฮอล์มากๆ มักกดความต้องการทางเพศ นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังเรื่องการใช้ยาต่างๆ โดยเฉพาะยาต้ม ยาหม้อ ยาลูกกลอนที่ไม่ได้มาตรฐานครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีครับคุณหมอ ผมอายุ 28 ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 4 วัน ทานอาหารเสริมคือเวย์โปรตีนวันละ 2 สกู๊ปเช้าและหลังออกกำลังกาย มาประมาณ4-5 เดือน ผมมีอาการหน่วงๆที่อัณฑะข้างซ้าย เป็นมา4-5 เดือน และจับดูเหมือนมีเส้นนิ่มๆแต่ไม่เจ็บ จะมีอาการเจ็บหน่วงช่วงบ่ายๆครับและเวลามีเพศสัมพันธ์รู้สึกแปลกๆที้อัณฑะแล้วอวัยวะเพศแข็งไม่เต็มที่ ทำให้ไม่หลั่งและหดก่อนครับจนหมดความมั่นใจในเรืองเซกส์ไปเลยครับ ขอคำแนะนำด้วยครับคุณหมอ ขอบคุณครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)