June 14, 2018 00:28
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 100 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่
และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ
ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ
ถ้าประจำเดือนมาแล้ว (ต้องมั่นใจว่า คือ ประจำเดือน นั่นคือ เลือดที่ออก ต้องลักษณะเหมือน ประจำเดือนปกติ) ก็ไม่น่าจะตั้งครรภ์แล้วค่ะ
ปกติรอบเดือนแต่ละรอบ (วันที่ประจำเดือนมาวันแรกรอบนี้ กับ วันที่ประจำเดือนมาวันแรกรอบถัดไป) จะประมาณ 28 - 30 วันค่ะ โดยไข่จะตกกลางรอบ คือประมาณวันที่ 14 ของรอบเดือน (นับวันที่ประจำเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน) ถ้าไข่ตกแล้ว ไม่ได้รับการผสม อีก 2 สัปดาห์ถัดมา เยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะหลุดมา เป็นเลือดประจำเดือนค่ะ
ในทางตรงกันข้าม ถ้าไข่ที่ตก ได้รับการผสมกับ อสุจิ เป็นตัวอ่อน มาฝังตัวในโพรงมดลูก เกิดการตั้งครรภ์ขึ้น เยื่อบุโพรงมดลูก ก็จะทำหน้าที่หล่อเลี้ยงตัวอ่อนต่อไป ไม่หลุดออกมาเป็นประจำเดือน เดือนนั้น ก็จะไม่มีประจำเดือนทันทีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กินยาคุมฉุกเฉินไปแล้วแต่มาในอีกเดือนถัดมามาครบวันปกติยังมีสิทธิ์ท้องไหมครับ ปล.วันนี้มีตกขาวสีน้ำตาล
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)