สวัสดีค่ะ ดิฉันเคยเป็นcellulitis อาการตอนนั้นคือตัวร้อนมากค่ะ ที่ขามีอาการปวด บวม แดง หลังจากนั้นก็ไปหาหมอได้ให้ยาฆ่าเชื่อทั้งแบบทานแล้วฉีดเข้าหลอดเลือดดำเป็นเวลา5วันค่ะ หลังจากนั้นก็หายปกติค่ะ แต่ตอนนี้กลับมาเป็นอีกแล้ว คือเริ่มมีไข้ แล้วปวดบริเวณเดิมที่เคยเป็นค่ะ ดิฉันจำอาการได้จึงไปซื้อยาฆ่าเชื้อกับนาแก้ปวดมาทานดักไว้ พอนอนพักตื่นมาก็ไม่มีไข้แล้วก็ไม่ปวดบริเวณที่เป็นค่ะ แต่มันยังแดงอยู่ แบบนี้อันตรายมั้ยค่ะ(มีภาพประกอบค่ะ สีเหลืองๆคือเบตาดีนนะคะ)

รูปไม่ขึ้นนะครับ แต่เบื้องต้นแนะนำให้ไปพบแพทย์นะครับ ถ้าหากไม่ใช่บุคคลากรทางการแพทย์หรือมีความรู้ ความเข้าใจในตัวโรค อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือภาวะแทรกซ้อนได้ สำหรับโรค cellulitis เป็นการอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังครับ จะมีอาการคือ มีไข้ ปวด บวม แดง ร้อน ในบริเวณหรือตำแหน่งที่เป็น อาจมีการลุกลามที่มากขึ้นกว่าเดิมได้ แต่ทั้งนี้อาการดังกล่าวอาจจะไม่ใช่ cellulitis เสมอไป หรืออาจเป็น cellulitis แต่ว่า turn กลายเป็นโรคติดเชื้อทางผิวหนังที่รุนแรงมากขึ้น ยกตัวอย่างโรคติดเชื้อทางผิวหนังที่มีอาการคล้าย cellulitis ได้แก่ Erysipelas หรือไฟลามทุ่ง, Necotizing fascitis (หรือที่นิยมเรียกกันคือ แบคทีเรียกินเนื้อคน)​เป็นต้น

หลักๆแล้วการรักษาโรคในกลุ่มนี้หรือการติดเชื้อที่ผิวหนัง จะต้องให้ยาปฏิชีวนะที่ครอบคลุมเชื้อของ Streptococcus และ Stapphylococcuss เป็นต้น หรืออาจมากกว่านี้ ต้องพิจารณาเป็นรายๆไป

ดังนั้นไปพบแพทย์ก่อนนะครับ นอกจากให้ยาปฏิชีวนะแล้ว แพทย์(บางคน)​อาจจะทำสัญลักษณ์ไว้ที่ขอบแผลด้วยครับ เพื่อดูรอยโรคว่ากระจายมากขึ้นหรือตอบสนองต่อการรักษาหรือไม่