April 25, 2019 00:40
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ยาคุมฉุกเฉินอาจมีผลข้างเคียงได้หลายอย่าง เช่น มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ คัดตึงเต้านม ตกขาวมากขึ้น เลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างรอบเดือน ซึ่งอาการเลือดออกหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเสมอไปครับ และการที่ไม่มีเลือดออกก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีการตั้งครรภ์
ในตอนนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อน ถ้าหากประจำเดือนมีการขาดหายไป หมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์ในกรณีนี้จะมีได้ประมาณ 15% ตามประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินที่ได้รับประทานไปภายใน 24 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงมากค่ะ แม้จะใช้เร็วและครบขนาดก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ
แต่ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้มากกว่า 90% จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) ไม่เกิน 4 วันค่ะ โดยประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ
ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ อาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร
ดังนั้น การที่ผู้ถามไม่มีเลือดออกมาภายใน 7 วันหลังรับประทานก็ไม่ผิดปกติอะไรนะคะ และไม่สามารถจะสรุปได้ว่ามีการตั้งครรภ์หรือว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ
และเนื่องจากไม่ทราบว่าเดิมผู้ถามมีรอบประจำเดือนเป็นกี่วัน และมาตรงเวลาสม่ำเสมอหรือไม่ เพราะหากผู้ถามมีประจำเดือนแต่ละรอบมาห่างกันมาก หรือมาไม่ตรงเวลาอยู่เรื่อย ๆ ประจำเดือนในรอบนี้ก็อาจยังไม่ถึงรอบที่จะมา หรืออาจคลาดเคลื่อนไปตามที่เคยเป็นมานั่นเองค่ะ
ดังนั้น หากกังวลว่าจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ส่วนอาการเจ็บคัดตึงเต้านม, ปวดท้องน้อย และตกขาว เนื่องจากไม่ทราบรายละเอียดเรื่องระยะเวลา แต่ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ อาการบางอย่างก็อาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน หรืออาจเป็นอาการก่อนมีประจำเดือนก็ได้
แต่ถ้าอาการเจ็บเต้านมมีความรุนแรงมาก หรือมีตกขาวปริมาณมากผิดปกติหรือสีผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง แนะนำให้ไปพบแพทย์/สูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
โดยปกติแล้วประจำเดือนจะมา7-8วันค่ะและมาไม่สม่ำเสมอค่ะ ส่วนอาการเจ็บคัดตึงเต้านม, ปวดท้องน้อย และตกขาวนั้นเป็นมาประมาณ1อาทิตย์แล้วค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เนื่องจากประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอก็จะทำให้คาดการณ์ได้ยากว่าประจำเดือนจะมาอีกครั้งในวันใดครับ
ในกรณีนี้สิ่งที่จะช่วยให้มั่นใจได้มากที่สุดคือการตรวจการตั้งครรภ์ครับ
ดังนั้นในเบื้องต้นจึงอาจลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คุณหมอคะวันนี้ดิฉันมีเลือดสีน้ำตาลออกมาแต่มาไม่มาก มีอาการปวดท้องน้อย และปวดศรีษะข้างเดียวร่วมด้วยค่ะ ดิฉันอยากทราบว่ามันคือประจำเดือนใช่ไหมคะเพราะอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันที่ต้องมีรอบเดือนแล้วค่ะ หรือว่ามันคือเลือดล้างหน้าเด็ก เพราะดิฉันไปอ่านศึกษาในเว็บมามันมีอาการคล้ายๆกันเลยค่ะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การที่จะบอกได้ว่าเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนหรือไม่นั้นจะต้องอาศัยการสังเกตลักษณะของเลือดที่ออกมาต่อไปอีก 2-3 วันครับ ถ้าหากผ่านไป 2-3 วันแล้วเลือดมีลักษณะใกล้เคียงกับประจำเดือนในรอบเดือนที่ผ่านๆมาก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนตามปกติได้ครับ
แต่ถ้าหากสังเกตอาการไปแล้วเลือดยังคงมีลักษณะที่มาน้อยกว่าปกติอยู่ก็ยังควรต้องตรวจการตั้วครรภ์ตามวิธีที่หมอได้แนะนำไปอยู่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอดิฉันมีคำถามเพิ่มเติมนิดหน่อยค่ะ พอดีดิฉันเริ่มทานยาคุมกำเนิดเป็นแผงแรกค่ะ เลยเลือกเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำ ดิฉันกินเม็ดแรกวันที่4ของประจำเดือนค่ะ อยากสอบถามว่าต้องกินไปกี่วันหรอคะถึงจะคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้ากินยาช้ากว่าเวลาเดิมที่กินประจำจะมีผลอะไรรึเปล่าคะ และมีอะไรบ้างที่ไม่ควรกินในเวลาใกล้เคียงกับยาคุมกำเนิด ขอบคุณสำหรับคำตอบมากๆค่ะคุณหมอ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การเริ่มรับประทานยาคุมภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนจะมีผลให้ยาคุมสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรกที่รับประทานยาครับ
ทั้งนี้การรับประทานยาคุมที่จะให้ผลการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ดีนั้นจะต้องรับประทานอย่างสม่ำเสมอในเวลาที่ใกล้เคียงกันทุกวัน โดยถ้าหากรับประทานคลาดเคลื่อนจากเวลาปกติไปบ้างเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็มักไม่ทำให้ประสิทธิภาพของยาลดลงครับ
สำหรับอาหารที่นั้นไม่ได้มีอาหารอะไรที่ห้ามรับประทานคู่กับยาคุมเป็นพิเศษครับ แต่การรับประทานยาฆ่าเชื้อบางชนิดหรือยากันชัดบางชนิดอาจมีผลลดประสิทธิภาพของยาคุมลงได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอคะ ขอรบกวนเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ พอดีดิฉันทานยาลดกรดไปเมื่อ21:30ค่ะ และดิฉันทานยาคุมอีกที22:30ค่ะ พอดีไปอ่านมาบางเพจก็บอกมีผลให้ยาลดประสิทธิภาพ บางเพจก็บอกไม่มีผลอะไรหน่ะคะ ดิฉันก็อยากทราบว่ามันมีผลอะไรไหมคะ พอดีดิฉันทานยาคุมฮอร์โมนต่ำด้วย กลัวว่ายาที่ทานไปมันจะไม่มีผลค่ะขอบคุณนะคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาลดกรดจะไม่ทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลงครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันมีเรื่องคิดมากมารบกวนอีกแล้วค่ะ คือดิฉันทานยาคุมชนิดฮอร์โมนต่ำมากไปในวันที่4ของการมีเลือดออกมาหลังทานยาคุมฉุกเฉิน ดิฉันมั่นใจว่าเป็นประจำเดือนอ่ะค่ะเพราะมันมีลิ่มเลือดออกมาเยอะและมีสีดำและแดงสด และดิฉันทานยาคุมกำเนิดไม่ค่อยตรงเวลาในทุกวันโดยจะห่างจากเวลาปกติที่ทานไป10นาที-2ชม.ทานมาได้11เม็ดแล้วค่ะ และวันนี้ดิฉันได้มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในค่ะ อยากทราบว่ามันเสี่ยงตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหนคะ และดิฉันควรซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินไหม และเวลากินยาดิฉันชอบรู้สึกเหมือนยาไม่ลงกระเพาะแต่ติดอยู่ตรงคอค่ะจนต้องมากินน้ำอีกทีหลังมันมีผลอะไรกับยาไหมคะ แล้วที่บางเว็บบอกว่าการกินยาคุมฮอร์โมนต่ำควรกินในวันแรกของประจำเดือน และควรกินให้หมด1แผงก่อนค่อยมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้นี่มันจำเป็นรึเปล่าคะ และถ้ากินไม่ค่อยตรงเวลาปกติมากเท่าไหร่แบบนี้จะทำให้ยามีประสิทธิภาพน้อยลงไหมคะ รบกวนคุณหมอตอบทั้งหมดหน่อยนะคะดิฉันเครียดมากๆเลยค่ะ😭 ขอบคุณสำหรับคำตอบของคุณหมอมากๆเลยนะคะ🙏
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
1. การรับประทานยาคุมกำเนิดครั้งแรกนั้นไม่ว่าจะเป็นชนิดฮอร์โมนต่ำหรือฮอร์โมนสูงก็จะเริ่มมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในกรณีดังต่อไปนี้ครับ
- ถ้าหากรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ยาคุมก็จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีตั้งแต่วันแรก
- ถ้าหากรับประทานยาช้ากว่า 5 วันแรกของการมีประจำเดือน ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันนานอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาคุมจึงจะเริ่มป้องกันการตั้งครรภ์ได้
และเมื่อยาคุมออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่แล้วโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ก็จะมีเพียง 0.3-8% เท่านั้นขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอในการรับประทานยาครับ
2. ในกรณีนี้ไม่ว่าเลือดที่ออกมาก่อนรับประทานยาคุมแบบฮอร์โมนต่ำจะใช่ประจำเดือนหรือไม่ ก็จะยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยเพราะได้รับประทานยาคุมมามากกว่า 7 วันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์แล้ว
3. การรับประทานยาคุมล่าช้ากว่ากำหนดเพียง 2-3 ชั่วโมงจะไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของยาคุม ในกรณีนี้จึงยังถือว่าเป็นการรับประทานยาคุมที่ต่อเนื่องอยู่
4. โดยธรรมชาติของหลอดอาหารนั้นถ้าหากมีอะไรไปติดอยู่ก็จะต้องมีอาการขย้อนอาเจียนออกมาครับ ดังนั้นถ้าหากกลืนยาคุมไปแล้วไม่ได้มีอาการอาเจียนออกมาก็แสดงว่ายาคุมลงไปในกระเพาะอาหารได้เรียบร้อยโดยไม่มีปัญหาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอขอรบกวนหน่อยนะคะ🙏 พอดีดิฉันกินยาคุมเมลลิแอนอีดี28เม็ดถึงเม็ดที่19-20แล้ว แต่ท้องเสียติดต่อกันมา2วันแล้ว ซึ่งมีการถ่ายเว้นระยะห่าง3-5ชม. แต่ถ่ายเพียงวันละ2ครั้งและถ่ายเป็นน้ำเหลว ครั้งที่1-3ดิฉันถ่ายห่างจากเวลากินยาคุมอยู่พอสมควร แต่วันนี้ดิฉันถ่ายหลังทานยาคุมไปเพียง1ชม.เลยอยากทราบว่ายาคุมยังมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดอยู่ไหมคะเพราะมีการท้องเสียติดต่อกัน2วันและถ่ายหลังกินยาคุมไปไม่นาน และควรกินยาคุมต่อไปหรือหยุดกินไปเลยดีคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
โดยปกติแล้วยาคุมจะถูกดูดซึมได้ตั้งแต่ในกระเพาะอาหารครับ ถ้าไม่ได้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วยก็จะไม่ได้ส่งผลต่อการดูดซึมยาคุมเข้าสู่ร่างกายครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
งั้นถ่ายเหลวหลังทานยา1ชั่วโมงก็ไม่มีผลอะไรต่อประสิทธิภาพยาใช่ไหมคะ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของยาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ ตอนนี้มีเรื่องกลุ้มใจมากๆเลยค่ะ คือดิฉันมีประจำเดือนมาวันที่29มี.ค-4ม.ยค่ะ และได้มีอะไรกับแฟนวันที่11ม.ยโดยไม่ได้ป้องกัน ดิฉันจึงรับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกไปภายใน2-3ชม.หลังจากมีเพศสัมพันธ์ และรับปรทานเม็ดที่2ภายใน12ชม. จนตอนนี้14วันแล้วก็ยังไม่มีเลือดออกหรือประจำเดือนมาเลยค่ะ แต่ดิฉันมีอาการเจ็บเต้านม เจ็บท้องน้อย ตกขาวมาเยอะหลายวันแล้วค่ะ อยากจะถามว่าเป็นแบบนี้มีโอกาสตั้งครรภ์มากน้อยเพียงใดหรอคะหรือว่ามันเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินคะ ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)