September 17, 2018 15:06
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการดังกล่าว เช่น การปวดท้อง ปวดหน้าอก ไม่ได้เป็นอาการจำเพาะของการตั้งครรภ์นะคะ จะทราบแน่ชัด ว่ามีการตั้งครรภ์ จะต้องตรวจปัสสาวะค่ะ ซึ่งคนไข้ สามารถตรวจปัสสาวะด้วยตนเอง เร็วสุด ประมาณ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
อาการปวดท้อง มีเลือดไหล ถ้าไม่เป็นไปตามรอบเดือนปกติ อาจบอกได้ยาก ว่าเป็นเลือดประจำเดือนหรือไม่ค่ะ หรือเป็นภาวะความผิดปกติของระบบสืบพันธ์สตรีอื่นๆ เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก การแท้งคุกคามหรือไม่ หรือเป็นเพียงการปวดประจำเดือนปกติ เป็นต้นค่ะ ถ้าไม่แน่ใจเรื่อง การตั้งครรภ์ จึงแนะนำให้ตรวจครรภ์ทุกครั้ง เพื่อช่วยในการวินิจฉัย
อย่างไรก็ตาม หากการมีเพศสัมพันธฺโดยป้องกันอย่างถูกวิธี เช่น การใส่ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง โอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก ประมาณ 2%ค่ะ
ดังนั้น หากปวดท้องมาก มีเบือดออกผิดปกติ ยังคงแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในอยู่ดีค่ะ อาจเป็นอันตรายได้ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยที่ถุกต้องค่ะ
>>การดื่มน้ำเย็น ไม่ได้มีผลต่อการตั้งครรภ์ หรือการปวดประจำเดือนนะคะ คนไข้ไม่ต้องกังวลค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้น ถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องและไม่มีการแตกรั่ว โอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์จะมีประมาณ 2% ครับ
ส่วนประจำเดือนที่ออกมาในวันที่ 3-7 นั้นอาจจะบอกได้ไม่แน่ชัดครับว่าใช่ประจำเดือนจริงหรือไม่เพราะถ้าเป็นประจำเดือนโดยส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ออกมาในลักษณะกระปริดกระปรอย
ถ้าหากเลือดที่ออกดังกล่าวไม่ใช่ประจำเดือน เลือดที่ออกมาในวันนี้ก็อาจเป็นประจำเดือนจริงก็ได้ครับเพราะมีปริมาณออกมามากกว่าครั้งที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามถ้าหากมีเลือดออกมาในปริมาณมากกว่าประจำเดือนตามปกติ เลือดหยุดยาก จนกระทั่งทำให้มีอาการอ่อนเพลียก็แนะนำว่าอาจต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ เพราะถ้าเลือดออกในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้
อาการดังกล่าวตามที่เล่ามายังไม่มีอาการใดที่จำเพาะหรือบ่งบอกว่าจะมีการตั้งครรภ์ครับ จึงอาจสังเกตอาการช่วงนี้ไปก่อนว่าใช่ประจำเดือนหรือไม่(ถ้าหากเลือดไม่ได้ออกมากผิดปกติ) ถ้าใช่ประจำเดือนก็ไม่น่ามีการตั้งครรภ์ครับ หรือในกรณีที่ไม่แน่ใจจริงๆก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แล้วตอนนี้เขามีอาการร้อนท้องวูบวาบแรงมากตรงด้านล่างสะดือ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
อาการปวดท้องที่ตำแหน่งใต้สะดือนั้นไม่ได้เป็นอาการที่จำเพาะต่อสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งเป็นพิเศษครับ โดยอาจเกิดได้จากทั้ง
- อาการปวดท้องในช่วงที่มีประจำเดือน
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
- อุ้งเชิงกรานอักเสบ
เป็นต้น
การที่จะบอกแน่ชัดได้ต้องอาศัยการตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ
ดังนั้นแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการก่อนครับ โดยเฉพาะในกรณีที่มีอาการปวดท้องรุนแรงหรือมีอาการเลือดออกมากผิดปกติก็ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการโดยเร็วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แฟนมี ปจด.ออกตอนวันที่3-7แต่ออกกระปริดกระปรอยแล้วผมมีเพศสัมพันธ์ตอนวันที่8ใส่ถุงยางแต่วันที่13เขามีอาการฉี่บ่อยวันที่15เริ่มมีอาการปวดหลังแต่ไม่อาการปวดหน้าอกอะไรทั้งสิ้นแล้ววัน17มีอาการเหมือนมีประจำเดือนเขาปวดท้องหนักเลือดออกมาเป็นสีเเดงหมูออกมาเหมือนประจำเดือนและมีอาการอ่อนเพลียด้วยคับเขานอนไม่ดึกเหมือนตอนก่อนๆดูอาการมันจะท้องไหมผมสงสัยมากเพราะถุงก็ไม่แตกแต่มีอาการแปลกๆอ่ะคับมันจะท้องหรอคับถ้าไม่ท้องแล้วเป็นอะไรอ่ะ อ่อมีอีกเรื่องตอนเป็นปจด.ครั้งแรกเขากินน้ำเย็นตลอดเลยคับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)