February 11, 2018 21:57
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ประจำเดือนจะมาตามกำหนดเดิมค่ะ อาจคลาดเคลื่อนไปบ้างจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน แต่มักไม่เร็วหรือช้าเกินกว่า 7 วันค่ะ เพราะฉะนั้นต้องทบทวนว่าประจำเดือนครั้งล่าสุดมาเมื่อไหร่ และตามปกติแล้วมีรอบประจำเดือนกี่วัน (วันแรกที่มีประจำเดือนของแต่ละครั้งห่างกันกี่วัน) ถ้ายังไม่ถึงกำหนดที่ประจำเดือนควรจะมา จะยังไม่มีประจำเดือนก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ
2. ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินที่เป็นเลือดออกกะปริบกะปรอย (เลือดออกเล็กน้อย อาจเพียงแค่ติดซึมกางเกงชั้นใน ไม่ออกมามากเหมือนประจำเดือนปกติ) มักพบภายใน 7 วันหลังรับประทานยา แต่บางคนก็อาจไม่มีผลข้างเคียงนี้เกิดขึ้นค่ะ จะมีหรือไม่มี ไม่ได้บ่งบอกว่าจะท้องหรือไม่ท้อง เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีเลือดออกกะปริบกะปรอยหลังใช้ยาคุมฉุกเฉิน ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร
3. การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่ มีความเสี่ยงที่จะท้องได้ค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉินป้องกันไว้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว แต่เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพไม่สูงนักในการป้องกันการตั้งครรภ์ แม้ใช้แล้วก็ยังมีโอกาสท้องได้ 15 - 25% เพราะฉะนั้น หากจะมีเพศสัมพันธ์ในครั้งต่อไป แนะนำให้ใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า เช่น ถุงยางอนามัย, ยาเม็ดคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, ยาฝังคุมกำเนิด เป็นต้น
4. หากท้องจริง ๆ จะตรวจพบโดยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ต้องรอหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน ดังนั้น ให้ซื้อชุดทดสอบมาตรวจในวันที่ 20 กุมภาพันธ์หรือหลังจากนั้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณครับ เเล้วถ้าเมนส์มาปกติประมาณวันที่ 3-4 กุมภา เเล้วกินยาคุมไปมีผลต่อการมาของประจำเดือนมั้ยครับ
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
มีเพศสัมพันธ์วันที่ 6 ก.พ. แล้วตรวจการตั้งครรภ์วันที่ 7 ก.พ.61 อาจจะเร็วไปหน่อย ดังนั้นผลตรวจจึงขึ้น 1 ขีดได้ ถ้าจะตรวจควรตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ครับ ส่วนกรณีประจำเดือนยังไม่มาส่วนหนึ่งอาจเกิดจากยาคถมฉุกเฉินได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ถ้าปกติประจำเดือนมาตรงเวลา การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าเสี่ยงน้อยที่จะตั้งครรภ์นะคะ แต่รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ กันไว้ก่อน เผื่อไว้ในกรณีที่ประจำเดือนอาจมาไม่ตรงเวลาสม่ำเสมอหรือเลือดที่ออกไม่ใช่ประจำเดือน
2. เมื่อรับประทานยาคุมฉุกเฉิน อาจทำให้ประจำเดือนรอบหน้ามาคลาดเคลื่อนได้ค่ะ แต่มักพบว่าไม่คลาดเคลื่อนมากกว่า 7 วันจากปกติ เช่นสมมติว่ารอบเดือนเป็นทุก 28 วันนะคะ ประจำเดือนครั้งหน้าควรจะมาประมาณ 3 มีนาคม แต่ผลจากยาคุมฉุกเฉิน อาจทำให้ประจำเดือนมาในช่วง 24 กุมภาพันธ์ - 10 มีนาคม คืออาจมาตรงกำหนดเดิมก็ได้ หรืออาจจะเร็วขึ้น หรือล่าช้ากว่าปกติก็ได้ค่ะ
3. ระหว่าง 7 - 13 กุมภาพันธ์นี้ อาจจะมีเลือดออกเล็กน้อย ติดซึมกางเกงชั้นใน ไม่ออกมามากเหมือนประจำเดือนปกติ นั่นคือผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินนะคะ ไม่ใช่ประจำเดือน แต่อาการนี้อาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ค่ะ ไม่เกี่ยวว่าจะตั้งครรภ์หรือเปล่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
แต่ถ้าประจำเดือนของเดือนนี้ยังไม่มาล่ะครับ ปกติน่าจะมาช่วงวันที่ 3-4 ก.พ เเล้ววันนี้มีมูกเหนียวๆออกมาล่ะครับ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การที่ประจำเดือนขาดหรือประจำเดือนคลาดเคลื่อนในเดือนนี้อาจเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉินได้ค่ะ นอกจากนั้นอาจเป็นผลมาจากความเครียด ความกังวลใจ รวมถึงการพักผ่อนน้อย เป็นต้น ดังนั้น ระหว่างนี้ควรรอรอบเดือนถัดไปหากประจำเดือนไม่มาอีกก็ลองตรวจก่รตั้งครรภ์ซ้ำอีกที แต่จากคำถามบอกว่าสอดใส่ขณะมีประจำเดือนและได้ทานยาคุมฉุกเฉินป้องกันแล้วด้วย โอกาสที่จะตั้งครรภ์มีน้อยแค่15-20%ค่ะ ตอนนี้อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนเลยนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
สารินทร์ สีหมากสุก (นพ.)
รอไปก่อนได้ครับ แล้วประมาณวันที่ 20 ก.พ.ค่อยตรวจการตั้วครรภ์อีกครั้ง หรือประมาณวันที่ 15 ก็ตรวจได้ แต่จะต้องเจาะเลือดตรวจที่โรงพยาบาล ระหว่างนี้หากมีอาการผิดปกติ สามารถขอรับบริการการตรวจได้ที่โรงพยาบาลก่อนได้ครับ แต่การตั้งครรภ์อาจจะยังไม่เหมาะสม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
สรุปว่าประจำเดือนที่มาครั้งล่าสุดเป็นของเดือนมกราคมใช่หรือไม่คะ?
ถ้าเช่นนั้น การตรวจตั้งครรภ์เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ แล้วได้ผลเป็นลบ ก็จะบอกได้แค่ว่า หากมีเพศสัมพันธ์ระหว่างวันที่ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดในเดือนมกราคมจนถึงวันที่ 24 มกราคม (โดยประมาณ) ไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ
แต่บอกยังไม่ได้ว่าการมีเพศสัมพันธ์หลังวันที่ 24 มกราคม (โดยประมาณ) มาจนถึงวันที่ตรวจก็คือ 7 กุมภาพันธ์ มีการตั้งครรภ์หรือไม่ เพราะอาจจะตั้งครรภ์ หรืออาจจะไม่ตั้งครรภ์ก็ได้ ต้องรอให้มีปริมาณฮอร์โมนมากพอที่เครื่องทดสอบจะอ่านค่าได้ค่ะ
และถ้ายังไม่มีประจำเดือนมาในช่วง 3 - 4 กุมภาพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ไม่ถือว่า "มีความเสี่ยงน้อย" ตามที่กล่าวไปในครั้งก่อนนะคะ เพราะคาดเดาช่วงเวลาที่ไข่จะตกไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้าสุดท้ายแล้วประจำเดือนไม่มาซักที แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะประมาณวันที่ 20 กุมภาพันธ์ หรือไปตรวจทางเลือดที่โรงพยาบาลประมาณวันที่ 15 กุมภาพันธ์ตามที่คุณหมอแนะนำนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอโทษนะครับ คำถามตามรูปเลยครับพอดีเเคปมา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)