โดนแมวกัดบริเวณน่องเป็นรูเขี้ยวเล็กๆ ทำความสะอาดแผลเรียบร้อยแต่ไม่ได้ไปฉีดยามาสองอาทิตย์ เริ่มมีอาการชา ปวดขาข้างที่โดนกัด จะเสี่ยงต่อการเป็นพิษสุนัขบ้ามั้ย สามารถแก้เบื้องต้นด้วยการไปฉีดได้รึเปล่า

ถ้าผ่านมาสองอาทิตย์ เเล้วเเมวยังอยู่ ยังไม่มีอาการผิดปกติ ยังไม่ตาย ก็ไม่น่ามีเชื้อพิษสุนัขบ้าครับ แต่ถ้าเเมวตายเเล้ว หรือตามเเมวไม่ได้เเนะนำให้ไปฉีดครับ

ส่วนอาการปวดบวม น่าจะเกิดจากติดเชื้อเเบคทีเรียมากกว่าครับ ในปากเเมวค่อนข้างสกปรก ในส่วนนี้ต้องกินยาฆ่าเชื้อครับ
เช่น Augmentin

เบื้องต้นถ้าเเมวตายไปเเล้ว\ตามเเมวไม่ได้ หรือถ้าเเมวยังอยู่อาการปกติแต่คนไข้พอมีเวลาเเนะนำให้ไปฉีดครับ(แม้ควรฉีดภายใน72ชม.แต่ฉีดตอนนี้ก็ยังมีประโยชน์ครับ) เพราะถึงเเม้สุนัขที่ข่วนเราไม่ได้ติดเชื้อ การฉีดก็มีประโยชน์ ถือเป็นการฉีดล่วงหน้า (Pre exposure) ครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องฉีดหลายเข็ม รวมถึงตัวคนไข้จะมีภูมิคุ้มกันอยู่ระดับหนึ่งด้วยครับ
.............
การฉีดวัคซีน 3 เข็ม ใน7วันเเรกไปก่อน(ซึ่งสามเข็มเเรกสำคัญที่สุด) จะมีภูมิคุ้มกันระดับหนึ่งเเล้วครับ (หลังสังเกตอาการสุนัขครบ10วันเเล้ว ถือว่าสุนัขปกติไม่ได้ติดเชื้อ
การฉีดครบ3เข็ม จะถือเป็นการฉีดเเบบ Pre exposure หรือที่เรียกว่าฉีดเเบบป้องกันไว้ก่อน ครบเเล้วครับ)
ครั้งต่อไปถ้าโดนสุนัขที่มีเชื้อกัด มีเเผลเลือดออกก็ไม่จำเป็นต้องฉีดอิมมูโนโกลบูลินเเล้ว(HRIG,ERIG) ซึ่งมีราคาเเพง และเเค่ฉีดวัคซีนกระตุ้นครับ

สวัสดีครับ
ในกรณีที่ถูกแมวกัดมาก่อนและยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้เร็วที่สุดก่อนเพื่อความปลอดภัยครับ

ในกรณีนี้ถึงจะผ่านมา 2 สัปดาห์หลังถูกกัดแล้วก็จะยังสามารถฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าได้อยู่ เนื่องจากโรคพิษสุนัขบ้านั้นมีการดำเนินโรคที่ช้า การฉีดวัคซีนในตอนนี้จึงยังมีโอกาสป้องกันการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ทันอยู่ครับ

อาการชานั้นยังไม่ใช่อาการที่จะบ่งบอกถึงการเป็นโรคพิษสุนัขบ้าครับ

ในกรณีนี้จึงยังสามารถไปฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าได้ครับ

อาการของโรคพิษสุนัขบ้าจะเกิดขึ้นได้ใน 2 ลักษณะใหญ่ๆครับ
1. อาการจากสมองอักเสบ
จะทำให้มีระดับความรู้สึกตัวที่เปลี่ยนไป โดยในช่วงแรกจะมีการรู้ตัวที่ปกติสลับกับช่วงที่ตื่นเต้น กระวนกระวาย จนถึงขั้นอาละวาด โวยวาย เรียกไม่รู้สึกตัวในภายหลัง ร่วมกับมีอาการกลัวน้ำ กลัวลม หลอดลมตีบเกร็ง
2. อาการอัมพาต
จะมีไข้ร่วมกับอาการชาและกล้ามเนื้ออ่อนแรง เริ่มจากขา มาแขน ลำตัว ใบหน้า และกล้ามเนื้อที่ทำงานเกี่ยวกับการหายใจในระยะสุดท้าย

อาการเหล่านี้ถ้าหากเกิดขึ้นแล้วก็จะมีการลุกลามมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าหากเป็นอาการชาหรือคันเฉพาะที่เพียงเล็กๆน้อยๆก็มักไม่ใช่อาการของโรคพิษสุนัขบ้าครับ

ถ้าหากเป็นไข้ในระยะแรกก็จะไม่สามารถดูออกได้ว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้าจนกว่าจะเริ่มมีอาการอื่นๆตามมาครับ ส่วนอาการของโรคพิษสุนัขบ้านั้นก็อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ในช่วงประมาณ 1 เดือน - 1 ปีหลังถูกกัดโดยจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ถูกกัดและปริมาณเชื้อที่ได้รับครับ

ถ้าหากถูกสัตว์กัดมาก็ควรไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดอาการครับ

ในกรณีที่แมวตัวที่กัดไม่ตายภายใน 10 วันหลังจากการกัด โอกาสที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้ามาจากแมวตัวดังกล่าวก็มีน้อยมากๆครับ

แต่ถ้าหากยังกังวลอยู่ในตอนนี้ก็อาจไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าก่อนได้ครับ โดยในกรณีนี้การฉีดวัคซีนเพียงแค่ 3 เข็มเสมือนการฉีดวัคซีนก่อนโดนสัตว์กัดก็เพียงพอที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันต่อโรคพิษสุนัขบ้าได้ครับ