September 06, 2017 11:10
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนักหลายชนิด ไม่ได้มีการทำวิจัยหรือมีผลการวิจัยยืนยันแน่นอนว่าปลอดภัย รวมถึงยาที่รับประทานต่างๆ อาจผสมสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยหวังเอาผลข้างเคียงของยานั้นมาใช้ในการลดน้ำหนัก ตัวอย่างเช่น ฮอร์โมนไทรอยด์ ยาขับปัสสาวะ ยาถ่าย ยาติตเวชต่างๆ รวมไปถึงยาแอมเฟตามีน ซึ่งยาเหล่านี้ สามารถลดน้ำหนักได้จริง แต่จะมาพร้อมผลข้างเคียงอื่นๆอีกมากมาย บางทีร้ายแรงถึงชีวิต เช่น ใจสั่น เกลือแร่ผิดปกติอย่างมาก กระดูกพรุน หัวใจวาย ติดยา อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ มีความผิดปกติของสารสื่อประสาท สุญเสียการทำงานของสมดุลร่างกายอย่างมากคะ ดังนั้น ไม่แนะนำให้ซื้อยายาลดน้ำหนักกินเองทุกชนิดค่ะ อนึ่ง ยาหยุดนั้น ไม่มีค่ะ คนไข้ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่ามีความผิดปกติในเลือดและความผิดปกติของร่างกายรับบไหนเกิดขึ้นอีกบ้าง ถ้าผิดปกติต้องตรวจติดตามแบะได้รับการรักษา อนึ่ง ความสูญเสียสมดุลทางร่างกายที่เกิดขึ้นจากยาบางชนิด อาจเป็นแบบถาวร ซึ่งทำได้เพียงรักษาแบบประคับประคองค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กินยาลดความอ้วนไปเมื่อเช้าแล้วปวดหัวมากเลยค่ะ พอก้มหน้าจะปวดเป็นพิเศษ พอดีพึ่งกินวันนี้เป็นเม็ดแรก ไม่เคยกินมาก่อน ควรทำยไงดีค่ะ
พอดีกินยาลดความอ้วน มิซี่ ไป Mizme ตัวนี้นะค่ะ กินไปได้หก เม็ด ประมาณ 1 อาทิตย์ ค่ะ และวันที่ 7 เกิดอาการปวดหัว ตัวร้อน เหมือนจะเปงไข้ ปวดหัวทั้งสองข้างตึงมากๆค่ะ และก็กินยาต่ออีกค่ะ คือกินเม็ดที่ 8 ค่ะ ไปกินตอนเช้า แต่ปวดหัวมาก มันเจ็บตึงๆ มีอาการบางครั้งหน้ามืด ตอนเย็นกลับมากินพารา แต่พอตื่นมาก็ ก็ยังปวดหัวขมับทั้งสองข้างมากๆเหมือนเดิม เลยหยูดกิยลดความอ้วน มาหนึ่งวันแล้วค่ะ แต่ยังปวดหัวขมับทั้งสองข้างและตึงหัวเหมือนเดิมค่ะ มีอาการหน้ามืดเหมือนเดิมและรู้สึกเหมือนจะมีไข้ พอตกเย็นก็กลับมากินยาพาราอีก แต่ก็ไม่รู้สึกดีขึ้นเลย เวลาประมาณ 23.00 มันปวดขมับทั้งสองข้างมาก ตึงหัวมากๆเลยค่ะ เลยไปร้านขายยา ซื้อยามากินค่ะ ได้ยาขยายหลอดเลือด กับยาแก้ปวดมากิน เช้านี้อาการทุเลาลงค่ะ แต่บางครั้ง ก็เจ็บปวดขมับตึงทั้งสองข้างเหมือนเดิม ค่ะ หนูอยากทราบว่าหนูเป็นโรคอะไรคะ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)