สวัสดีค่ะ หนูอายุ 20 ปี มีโรคประจำตัวเป็นธาลัสซีเมีย ช่วงนี้หนูนอนไม่หลับเลยค่ะ ล่าสุดก็3วันติดกัน วันไหนได้นอนก็หลับๆตื่นๆตลอด กินอาหารบางวันก็ไม่รู้สึกอยากกินบางวันก็กินเยอะมากๆเยอะกว่าคนปกติ เมื่อต้นเดือนมค. หนูรู้สึกเครียดมาก ไม่มีความหวังหรืออยากทำอะไรในชีวิตเลย รู้สึกไร้ค่าตลอด เคยลองพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่ตอนม.4 ช่วงม.6มีการสอบเข้ามหาลัย หนูทะเลาะกับที่บ้านบ่อยมาก ไม่มีจิตใจในการทำอะไรเลย ท้อ ผิดหวังไปฟมด จนอยากฆ่าตัวตาย แต่ที่บ้านไม่เคยรับรู้เลยว่าหนูเป็นอะไร หนูไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่เพราะเขาแยกทางกัน ปัจจุบันหนูปี.2แล้ว ช่วงที่มีความสุขจะมีความสุขมากๆ แต่ไม่สามารถมีสมาธิทำอะไรเลย ไม่มีสมาธิที่จะเรียน วันไหนที่รู้สึกแย่มากๆหนูมักเดินออกไปนอกห้องและไปนั่งเงียบๆคนเดียวตลอด เป็นแบบนี้มานานมากแล้ว ไม่เคยไปพบหมอเลย ล่าสุดหนูพึ่งเลิกกับแฟนไป หนูรู้สึกหนักกว่าเดิมมากๆ รู้สึกตัวเองไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีใครรัก หงุดหงิดง่ายมาก จากเคยพูดเก่งกับไม่ค่อยพูดกับใครเลย หนูอยากพบแพทย์อยากทำการรักษา แต่หนูไม่รู้จะเริ่มยังไง ขอคำแนะนำทีคะ

สวัสดีครับ
การที่มีความรู้สึกไม่มีความสุขอย่างต่อ ไม่มีสมาธิ นอนไม่หลับ รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า และมีความคิดอยากฆ่าตัวตายเกิดขึ้นอยู่บ่อยๆนั้นเป็นอาการที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ในกรณีนี้หมอเห็นด้วยที่คุณจะลองไปพบจิตแพทย์นะครับ เพราะถ้าเป็นโรคซึมเศร้าจริง การได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุดก็จะให้ผลการรักษาที่ดีมากขึ้นครับ

ในระหว่างนี้หมออยากให้คุณได้ดูแลสุขภาพจิตของตนเองด้วย โดยการพยายามหาสิ่งที่ตนเองชอบมาทำ พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ออกไปหากิจกรรมหใม่ๆทำบ้าง รวมถึงพยายามหาเพื่อพูดคุย อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่คนเดียว

และถ้าหากต้องการคำปรึกษาในเบื้องต้นเพิ่มเติมก่อนไปพบจิตแพทย์ก็สามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ

จากอาการที่หนูเล่ามานั้น คิดว่าหนูกำลังตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า เนื่องจากหนูไม่สามารถปรับตัวกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานหลายปี

เบื้องต้นลองเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ

ขั้นตอนการไปพบจิตแพทย์
1. หนูติดต่อ กับ รพ.ตามสิทธิ์การรักษาที่หนูมี นะคะ
2. การพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หนูสามารถเล่าระบายความรู้สึกข้างในของหนูออกมาได้แบบตรงไปตรงมา จิตแพทย์ทุกท่านจะรับฟังปัญหาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมให้กับหนู
3. วิธีการรักษาโรคซึมเศร้า มีทั้งการรักษาด้วยยา และการทำจิตบำบัดร่วมกัน
4.ในระหว่างที่ทำการรักษาหนูต้องดูแลตัวเอง ทานยาให้สม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ไปพบแพทย์ตามนัด
5.งดใช้สารเสพติด หรือสารกระตุ้นทุกชนิด ไม่ปรับยา หรือหยุดยาเอง หากมีอาการผิดปกติในระหว่างทานยาก็ต้องไปพบแพทย์ก่อนนัดนะคะ
หากหนูปฎิบัติได้ตามนี้ การรักษาก็ง่ายขึ้น อาการดีขึ้นได้เร็ว หนูสามารถใช้ชีวิต ปรับตัวกับปัญหาต่างๆได้อย่างเหมาะสมมากขึ้นนะคะ