ผมมีอาการปวดท้องด้านซ้ายใกล้ๆสะดือ มา 2 วันแล้วครับ แต่ก่อนจะปวดท้องผมมีอาการท้องเสียถ่ายของเสียออกมาเป็นน้ำเลยครับ อาการปวดท้องผมจะเกิดขึ้นเวลาผมขยับตัว เมื่อเกิดอาการปวดท้องผมมักรู้สึกอยากถ่ายหนัก แต่พอผมนั่งลงที่โถผมมักจะผายลมออกแทบทุกครั้ง และทุกครั้งที่ผายลมออกอาการปวดท้องจะดีขึ้น ผมอยากทราบว่าอาการเหล่านี้มันเป็นสาเหตุของโรคอะไรครับ? แล้วมีวิธีการรักษาแบบไหนบ้าง?

สวัสดีค่ะ อาการปวดท้องด้านซ้ายบริเวณดังกล่าว สามารถเป็นได้หลายอย่างค่ะ 1. การติดเชื้อที่ลำไส้ เช่น แบคทีเรีย เป็นต้น อาจเกิดจากการรับประทานอาหารไม่สะอาด ดื่มน้ำไม่สะอาด ทำให้มีอาการท้องเสียถ่ายเหลวร่วมด้วย 2 IBD มักคิดภึงในคนไข้ที่มีอาการถ่ายเหลว ปวดท้องเรื่อรัง หรือมีความเครียดบ่อยๆ อาการเหล่านี้มักดีขึ้นหลังถ่ายอุจจาระเสร็จ 3.พยาธิต่างๆ อาจมีอาการปวดท้อง ถ่ายเหลว บางคนอาจรู้สึกปวด อยากถาายบ่อยๆ ถ่ายไม่สุด ถ่ายแล้วอบากถ่ายอีก เป็นต้น บางคนอาจถ่ายมีพยาธิออกมาให้เห็นได้ค่ะ 4.ยาบางอย่าง หรืออาหารบางอย่าง เช่น ชา กาแฟ เป็นต้น 5.หากอาการทางกาย ได้ตรวจร่างกายดีแล้ว ไม่พบความผิดปกติ อาจเกิดจากความเครียด วิตกกังวลได้ค่ะ **สำหรับอาการดังกล่าว เป็นการวินิจฉัยอย่างพอสังเขป การให้การรักษาต้องได้รับการตรวจร่างกายเพิ่มเติมโดยแพทย์ ดังนั้น แนะนำให้ไปตรวจร่างกายที่ รพ เพื่อการรักษาที่ถูกต้องหากอาการไม่ดีขึ้นค่ะ** วิธีการดูแลเมื่อมีอาการท้องเสียเบื้องต้น 1.ทานน้ำเกลือแร่ (ORS แบบชงรับประทานเอง)ทดแทนน้ำในอุจจาระที่สูญเสียไปค่ะ 2.ดื่มน้ำมากๆ 3.หาก มีอาการคลื่นไส้อาเจียน สามารถทานยาแก้คงื่นไส้อาเจียนได้ 4.รับประทานอาหารปรุงสุกสะอาดเท่านั้น 5.หากมีอาการถ่ายมาก กินไม่ได้ ถ่ายมีมํกเลือดปน มีไข้ ให้ไปพบแพทย์ค่ะ ไม่แนะนำให้ทานยาหยุดถ่ายหรือซื้อยาฆ่าเชื้อทานเองค่ะ