February 16, 2019 22:50
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การที่รู้สึกว่าไม่ได้รับความรักจากครอบครัวนั้นเป็นเรื่องปกติที่จะทำให้เกิดอารมณ์เศร้าได้ครับ แต่อาการที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นจากโรคซึมเศร้าหรือไม่ก็ต้องอาศัยอาการอื่นๆร่วมด้วย
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
หมอแนะนำให้ลองไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ในระหว่างนี้หมออยากให้คุณได้ดูแลสุขภาพจิตของตรเอง โดยการพยายามนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำ ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามาก็มีอยู่บางอาการนะครับที่ตรงกับในเรื่องของภาวะโรคซึมเศร้า ซึ่งคุณสามารถลองทำแบบสอบถามหรือว่าสังเกตตนเองดูก็ได้ครับว่ามีอาการตรงกับที่พี่นักจิตวิทยาอว่ามา อยู่ 4-5 อาการและติดต่อกันมานานเกินกว่า 2 สัปดาห์หรือไม่ และหากคุณรู้สึกว่าอาการเหล่านี้เข้ามารบกวนการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแล้ว คุณอาจจะลองเข้าพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินและรับการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไปได้นะครับ
ในส่วนของที่คุณบอกว่าไม่เคยได้รับกำลังใจจากทางบ้านเลยตรงนี้ขอแสดงความเห็นใจและต้องบอกว่าคุณเข้มแข็งนะครับที่สามารถทำสิ่งต่างๆได้โดยที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวซักเท่าไหร่ ซึ่งในตอนนี้สิ่งเหล่านี้ก็เริ่มเข้ามามีผลกระทบต่อคุณมากขึ้น ดังนั้นในเบื้องต้นนอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การบริหารจัดการกับความเครียดหรือการดูแลตนเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน การทานอาหารหรือการนอนหลับที่เพียงพอจะมีส่วนในการควบคุมอารมณ์ และในเบื้องต้นอยากให้ลองใช้เวลาให้กับตัวเราเองเพื่อทำกิจกรรมที่ชอบทำหรือทำแล้วมีความสุขโดยอาจจะเป็นในเรื่องของ การออกกำลังกาย การดูหนัง ฟังเพลง หรือหากคุณมีเพื่อนทีสนิทและไว้ใจได้ ก็อาจจะหาเพื่อนคนนั้นและลองค่อยๆบอกเล่าปัญหาที่เจอให้ฟังได้ แต่ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะครับ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยในเรื่องของการปรับอารมณ์ของตัวคุณได้ หรืออาจจะช่วยให้อารมณ์เศร้าเหล่านี้บรรเทาลงไปได้
สุดท้ายนี้หากว่าตวามเครียดตรงนี้เริ่มส่งผลให้คุณดำเนินชีวิตประจำวันได้ไม่ดีเท่าที่หวังไว้ แต่ยังไม่ต้องการที่จะเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ ลองติดต่อสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ที่รับให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องความเครียด และการดูแลสุขภาพจิต ตลอด 24 ชม. ได้ครับ แต่อาจจะมีบางช่วงเวลาที่รอสายนานหน่อยนะครับ หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เบื้องต้นเช็คอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดีคือการรักษาด้วยยาร่วมกับการทำจิตบำบัดนะคะ หากอาการเข้าข่ายซึมเศร้าหนูควรไปพบจิตแพทย์ รีบรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยให้อาการกำเริบรุนแรงนะคะ เพราะจะทำให้รักษาได้ยากขึ้นต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานขึ้นซึ่งจะทำให้หนูเสียโอกาสในชีวิตหลายๆอย่างไปนะคะ
นอกจากนั้นอยากให้หนูฝึกให้กำลังใจตัวเอง จริงๆแล้วธรรมชาติของทุกชีวิตเกิดมาตัวคนเดียว และเมื่อเติบโตเราไม่ต้องรอความรักจากใครๆ แต่เราต้องสร้างความรักด้วยตัวเราเอง เริ่มจากการรักตัวเอง รักตัวเองแล้วก็แบ่งปันความรักไปยังคนรอบข้าง เรามีความสามารถแค่ไหนเราก็ทำแค่นั้น อย่าคาดหวังอะไรที่เกินความสามารถเพราะมันจะทำให้เราผิดหวัง ท้อแท้ ได้ง่ายนะคะ พี่เป็นกำลังใจให้หนูนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สวัสดีค่ะ หนูกลัวว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า หนูขาดกำลังใจจากครอบครัวไม่ใช่ขาดหรอกค่ะ ไม่เคยได้รับมันเลยด้วยซ้ำ เวลาจะทำอะไรไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย อยู่ดีๆก็ร้องให้ เหม่อลอย หนูต้องทำยังไงคะ.
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)