March 23, 2018 10:29
ตอบโดย
สมทรง นิลประยูร (นพ.)
ผลต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
คุณแม่ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ และความดันโลหิตสูง ทั้งยังพบว่าอาจจะมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดก่อนคลอด ซึ่งทำให้การคลอดก่อนกำหนดได้เนื่องจากรกลอกตัวก่อนกำหนดแล้วชักนำการคลอดให้เร็วกว่าที่ร่างกายของคุณแม่จะพร้อมคลอดเองตามธรรมชาติ ส่งผลให้ต้องคลอดโดยการผ่าคลอด ซึ่งอาจจะไม่เป็นผลดีกับตัวของคุณแม่เอง และทารกในครรภ์
ผลต่อทารกในครรภ์
หากพบว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ทารกในครรภ์ก็จะได้รับเชื้อจากแม่ไปสู่ลูกได้ง่าย และผลกระทบอื่นๆ ก็คือ การคลอดก่อนกำหนดที่อายุครรภ์น้อยกว่า 34 สัปดาห์ และ 37 สัปดาห์ ซึ่งส่งผลให้ทารกที่เกิดก่อนกำหนด ไม่แข็งแรง ร่างกายยังไม่สมบูรณ์ 100% และไม่พร้อมที่จะออกมาสู้กับโรคภายนอก ที่สำคัญการเกิดน้ำเดินก่อนเจ็บครรภ์คลอดนั้น อาจจะทำให้แท้ง และการตายระหว่างคลอดได้สูงค่ะ
การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบบี
การรักษาในทารกแรกเกิดส่วนมาก จะทำโดยการให้วัคซีน และอิมมูโนโกลบูลิน ที่ช่วยลดการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกได้ถึง 90 – 95% เลยทีเดียว แต่ก็ยังมีอีก 5 – 10% ที่มีโอกาสติดเชื้อได้เช่นเดียวกันค่ะ ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคน จะได้รับการตรวจเลือด เพื่อดูการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี การดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีจึงมุ่งเน้นไปที่การดูแลเพื่อลดการติดเชื้อจากแม่ไปสู่ลูกค่ะ โดยการให้วัคซีนและอิมมูโนโกลบูลินหลังทารกคลอดได้ 12 ชั่วโมง
-ควรตรวจให้แน่ใจว่าตั้งครรภ์หรือไม่ แล้วรีบไปพบสูติแพทย์ เพื่อฝากครรภ์ และ รักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
รัชนี รุ่งราตรี (พญว.)
คุณแม่ตั้งครรภ์
จะได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อลดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีลงได้ โดยการฝากครรภ์ครั้งแรก คุณแม่ตั้งครรภ์ทุกคนจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg) หากพบว่าผลการตรวจผิดปกติคุณแม่จะได้รับการตรวจ HBeAg และ liver function test ส่งปรึกษาอายุรกรรมต่อไปค่ะ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่พบว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ แนะนำให้ปฏิบัติตัวดังนี้
รับประทานยาและปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ไม่ใช้ยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์เด็ดขาด เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ค่ะ
รับการตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพราะการตรวจเลือดจะทำให้ทราบว่า ตับมีอาการอักเสบมากน้อยเพียงใด
บอกคนใกล้ชิดให้ทราบ เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี
มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย โดยการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง
ไม่ดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะไม่ดีต่อสุขภาพของทารกด้วย
พักผ่อนให้เพียงพอทั้งร่างกายและจิตใจนะคะ
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เพียงพอทุกวัน ที่สำคัญอาหารเหล่านั้นต้องสุก และสะอาดด้วยค่ะ ลดการรับประทานอาหารไขมันสูง และเนื้อสัตว์ที่ไหม้จนเกรียม
คุณแม่ตั้งครรภ์ และคลอดบุตร ควรฉีดวัคซีนให้บุตรภายใน 24 ชั่วโมงหลังคลอดค่ะ
-เด็กทารกแรกเกิดจะต้องฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี มากกว่าเด็กโต หรือผู้ใหญ่ เพราะร่างกายของเด็กทารกยังมีภูมิคุ้มกันเชื้อไวรัสต่าง ๆ ได้น้อย ดังนั้นเพื่อป้องกันคุณแม่ควรพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอ ไปตามแพทย์นัดทุกครั้งนะคะ นอกจากนี้ผู้ที่อยู่ในครอบครัวที่เป็นพาหะ ควรตรวจเลือดเพื่อทราบถึงภาวะของการติดเชื้อก่อนการฉีดวัคซีน และการฉีดวัคซีนนั้นจะต้องฉีดให้ครบชุดจำนวน 3 เข็มค่ะ หลังจากนั้นวัคซีนจะกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานขึ้นในร่างกายค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ผลตรวจเลือดพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในช่วงที่สงสัยว่าจะตั้งครรภ์ ควรทำยังไงค่ะ แล้วจะรักษายังไงค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)