March 10, 2019 07:44
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ตามเหตุการณ์ที่เล่ามานั้นหมอเชื่อว่าคงทำให้คุณรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างมากครับ เพราะในขณะที่คุณอยากเอาตัวเองออกมาเป็นอิสระแต่อีกใจหนึ่งก็ยังไม่สามารถตัดขาดจากคุณแม่ได้
ลักษณะพฤติกรรมของคุณแม่ตามที่เล่ามานั้นมีโอกาสที่จะเป็นได้ทั้งจากลักษณะบุคลิกพื้นฐานเดิม การเป็นโรคบุคลิกภาพที่ผิดปกติบางอย่าง ไปจนถึงขั้นที่มีโรคที่เกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์บางชนิดได้ครับ ซึ่งอาจจะเป็นการยากที่จะบอกได้ว่าท่านเป็นอะไรจนกว่าจะได้รับการตรวจประเมินอาการจากจิตแพทย์โดยตรงครับ แต่หมอคิดว่าการที่จะพาคุณแม่ออกมาพบจิตแพทย์นั้นคงเป็นเรื่องยากเพราะถ้าหากท่านยังไม่ยอมรับว่าพฤติกรรมเหล่านี้ของท่านทำให้เกิดปัญหา ก็เป็นเรื่องยากที่ท่านจะยอมรับการไปพบจิตแพทย์ครับ
ในกรณีนี้หมอจึงอยากให้คุณเริ่มที่ตัวคุณเองเป็นหลักน่าจะดีกว่าครับ หมออยากให้คุณให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเอง ทำความเข้าใจกับตนเองว่าตนเองต้องการอะไรและให้ทำความตั้งใจนั้นเป็นหลัก น่าจะเป็นวิธีที่ง่ายกว่าการคาดหวังที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคุณแม่ที่มีลักษณะพฤติกรรมเหล่านี้มาเป็นสิบๆปี
ในส่วนของคุณแม่นั้นถ้าหากสามารถพูดชวนให้ท่านลองไปพบจิตแพทย์ได้ก็คงเป็นเรื่องดีครับ แต่เรื่องเหล่านี้ก็คงต้องใช้เวลาเช่นกัน
การที่คุณสามารถเล่าเหตุการณ์และวิเคราะห์พฤติกรรมของคุณแม่ได้ในระดับนี้เป็นการบ่งบอกว่าคุณมีความเข้าใจในตัวของคุณแม่ของคุณค่อนข้างมากและหมอก็อยากให้คุณใช้จุดนี้ให้เป็นจุดแข็งของตัวเองมากกว่าที่จะทำให้เกิดทุกข์ครับ หมออยากให้คุณเข้าใจในสิ่งที่คุณแม่เป็นและยอมรับในสิ่งที่ท่านเป็นเพียงเท่านั้นก็เพียงพอครับ เพราะยิ่งถ้าคุณไม่ยอมรับพฤติกรรมของคุณแม่และอยากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคุณแม่มากเท่าไหร่ความทุกข์ที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากตามขึ้นไปครับ
สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือการดูแลสภาพจิตใจของตัวคุณเอง ให้โอกาสให้ตัวเองได้ใช้ชีวิตในแบบต้องการ ทำตามใจตัวเองบ้าง เรื่องอะไรที่ยังแก้ไม่ได้ก็อาจต้องพักเอาไว้ก่อน จนเมื่อสภาพจิตใจของตัวเองดีขึ้นแล้วค่อยกลับมาคืดหาทางแก้ไขใหม่ก็ยังไม่สายเกินไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีนี้ อยากให้คุณทำใจ คนเราเลือกเกิดไม่ได้นะคะ แต่ขอให้รู้ไว้ว่าคุณมีชีวิตเป็นของตนเอง คุณสามารถออกแบบชีวิตของคุณได้เอง ให้คุณอยู่กับปัจจุบัน วันนี้คุณมีใครที่อยู่เคียงข้าง หากคุณเห็นว่าเขาเป็นคนดี ช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ คุณสามารถตัดสินใจเลือกเขาได้เลย คุณโตแล้ว
ส่วนเรื่องของแม่นั้น ขอให้คิดแค่ว่า ท่านเป็นแบบนั้นของท่าน ท่านอาจจะเจอประสบการณ์ในชีวิตที่ไม่ดีมาก่อน จนทำให้ท่านต้องเป็นคนแบบนีั้น เราช่วยเหลือได้แค่ไหนก็แค่นั้น ให้คิดว่าเราก้เป็นคนนึงที่มีกำลังพอที่จะช่วยเหลือได้แค่นี้ ให้กำลังใจตัวเอง เราทำดีที่สุดแล้ว ใครจะมองเราอย่างไรไม่ควรไปใส่ใจให้มากนัก ต่อให้คุณเป็นคนไม่ดีในสายตาแม่ แต่คุณสามารถเป็นคนดีในสายตาคนอื่นๆได้ โดยการเป็นคนดี ไม่ทำในสิ่งที่ตนเองเดือดร้อน หรือสร้างความเดือดร้อนให้คนรอบข้าง ก็เพียงพอแล้ว
ปัญหาบางอย่าง เราไม่อาจจะแก้ไขมันได้ ก็ต้องปล่อยให้เวลาจัดการไปนะคะ ดังนั้นตัวคุณควรวางตัวเป็นกลาง คนในครอบครัวโทรมา ก็รับฟังเขา แล้วย้อนถามตัวเองว่าสิ่งนั้นเราสามารถจะแก้ไข หรือ ช่วยเหลือเขาได้แค่ไหนที่ไม่ทำให้เราเดือดร้อน
หากคุณเครียดมาก และเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ จนทำให้การดำรงชีวิตประจำวันของคุณแย่ลง แนะนำพบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม รับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมนะคะ เพราะการที่คนเราต้องเจอกับสภาวะที่กดดันทางด้านจิตใจอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต และหากไม่สามารถปรับตัวกับปัญหานั้นได้ก้อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหรือโรคทางด้านจิตใจอื่นๆได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณหมอทั้งสองท่านมากเลยนะค่ะ ใช่ค่ะ ดิชั้นเครียดและทุกข์ทรมาณมากค่ะ ตอนนี้อยู่ต่างประเทศกับแฟนต่างชาติ เรามีกันแค่สองคน ไม่ค่อยได้กลับบ้านที่ไทย แต่คุณแม่ส่งข้อความมารุนแรงมากล่าสุดเมื่อเดือนก่อนตอนวันเกิดดิชั้น ที่บอกว่าถ้าจะแต่งงานกับคนนี้ ก็จะตัดขาด ไม่ต้องมาเรียกแม่อีกต่อไป ดิชั้นร้องไห้ เสียใจไปหลายอาทิตย์ ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทำใจ คบกับแฟนมา 12 ปีแล้วค่ะ เราไม่เปลี่ยนคนหรือเปลี่ยนใจอีกแล้ว ดิชั้นรู้สึกว่าโตแล้ว แก่แล้ว 30 กว่าแล้ว ถึงเวลาตั้งครอบครัวของเราเอง ถึงแม่จะมองเราเป็นคนไม่ดี แต่ทำอะไร เราก็ไม่เคยดีอยู่แล้ว ทั้งๆที่ดิชั้นเรียนดี ได้ทุนเรียนเมืองนอก ทำงาน หาเงิน ไม่เป็นภาระให้พ่อแม่เดือดร้อน แต่ไม่เคยได้คำพูดดีดีกลับมาเลย ดิชั้นอยากเลือกที่จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง ทุกคน เพื่อนฝูงยินดีและอยากให้เรามีชีวิตที่มีความสุข ไม่มีใครติเราและแฟน มีแม่คนเดียวที่อคติและไม่พอใจ หาว่าเราเห็นแก่ตัว ตั้งแต่ข้อความรุนแรงของแม่ ติชั้นยังไม่ได้ติดต่อแม่ เพราะครั้งนี้ไม่ไหวแล้วค่ะ ทำได้เพียงเท่านี้จริงๆ ให้เงินไปหมดแล้ว ดิชั้นไม่มีเงินเก็บ ไม่มีเงินซื่อบ้าน ไม่มีเงินที่จะแต่งงาน มีลูก ทำอะไรให้ตัวเองไม่ได้เลย ต่างประเทศทุกอย่างแพงมากค่ะ แต่ก็ยีงถูกแม่ครหาว่าเป็นคนเลว และเนรคุณ ไม่เคารพการตัดสินใจของดิชั้น ด่าทั้งเรา และแฟนอย่างเสียหาย ไม่มีชิ้นดี
หลังจากที่เสียใจมาก เครียด นอนไม่หลับ ใจเต้นแรง ดิชั้นก็พยายามใช้เวลาทำใจ ทบทวน แล้วดิชั้นศึกษาอาการของแม่ โดยเรียบเรียงเหตูการณ์ทุกอย่างเท่าที่ดิชั้นจำความได้ แล้วหาข้อมูลทาง internet ทำ research ดู จนเข้าใจว่าแม่น่าจะเป็น NPD หรือ bipolar ค่ะ อาการทุกอย่างเข้าข่าย NPD ซึ่งรักษาได้ยาก
ใช่ค่ะ เป็นเรื่องยากที่สุดที่จะเปลี่ยนท่าน หรือพาไปหาจิตแพทย์ เพราะว่าท่านคงอาละวากบ้านแตก ไม่ยอมไปหรอกค่ะ เค้าจะหาว่า ไปว่าเค้าบ้า แม่อายุ 60 กว่าแล้ว คงเปลี่ยนอะไรยาก ตอนแรกดิชั้นคิดว่า ถ้าแม่มีอาการทางจิต ก็อยากพาท่านไปหาจิตแพทย์เพื่อบำบัดค่ะ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่เมืองไทยค่ะ ทางบ้านแม่อยู่กับน้องชายแค่สองคน หย่ากับคุณพ่อแล้ว คนอื่น น้องก็ไม่มีใครเข้าใจเรื่องทางนี้ เพราะแม่ตัดขาดกับทุกคนในครอบครัว ไม่มีใครช่วยเหลือได้เลย ไม่มีใครกล้าพาแม่ไปหาหมอ
ดิชั้นเห็นด้วยกับคุณหมอ ว่าดิชั้นควรจะเริ่มรักษาจิตใจตัวเอง เพราะโดนกดดัน และเครียดมามาก จะลองปรึกษาจิตแพทย์ หรือ therapist ที่นี่ดูค่ะ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
ก่อนอื่นก็ต้องบอกเหมือนกับคุณหมอนะครับว่าจากที่ได้อ่านมาคุณมีอดีตที่ไม่ค่อยจะราบรื่นนักและคุณแม่เป็นคนหนึ่งเลยที่เป็นคนที่ทำให้คุณมีความเครียดและวิตกกังวลกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
จะขอเห็นด้วยกับคุณหมอนะครับว่าเป็นเรื่องยากที่ะจะวินิจฉัยคุณแม่หากเจ้าตัวไม่ได้เป็นคนเข้าพบแพทย์เอง ยิ่งเป็นโรคทางบุคลิกภาพด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นเรื่องยากครับในการที่จะวินิจฉัยแบบนั้น อย่างไรก็ตาม การที่คุณไปอยู่ต่างประเทศก็ทำให้คุณเริ่มที่จะมีอิสระจากคุณแม่มากขึ้น และทำให้คุณพบว่าสิ่งที่คุณแม่เป็น เป็นสิ่งที่คุณเองรับไม่ได้และไม่ชอบเลย ซึ่งมันเป็นความอัดอั้นของคุณด้วย แต่อย่างที่คุณเข้าใจนะครับ บางครั้งการเปลี่ยนคุณแม่ที่มีอายุมากแล้ว และการที่คุณแม่ไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองเป็นจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีสำหรับตนเอง ก็เป็นสิ่งที่ยากถ้าหากจะให้เขาไปพบกับจิตแพทย์ครับ
หากอยู่ที่ต่างประเทศ ก็ให้ลองหา therapist ที่โน้นดูนะครับ เพราะสิ่งสำคัญก็คือการดูแลจิตใจของตนเองและทำให้คุณผ่านเหตุการณ์ตรงนี้ไปได้ครับ นอกจากในเรื่องของการรับบริการจาก therapist ที่ต่างชาติ หากมีปัญหาในเรื่องของวัฒนธรรมหรือแนวความคิดที่แตกต่างกัน มีการบริการให้คำปรึกษาผ่านช่องทาง video call จากประเทศไทยอยู่บ้างนะครับ ซึ่งคุณก็สามารถลองพิจารณาเป็นตัวเลือกได้ครับ สิ่งสำคัญอาจจะเป็นเรื่องของเวลาที่แตกต่างกันที่อาจจะทำให้การนัดยากขึ้นซักเล็กน้อย แต่มี therapist ไทยจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่มีชั่วโมงการให้บริการที่รองรับคนไทยในต่างแดน ยังไงก็ลองดูนะครับถ้าหากมีคำถามอะไรก็สามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณนะคะสำหรับคอมเมนท์ ช่ายค่ะ มีบางอย่างที่อยากจะปรึกษานักจิตวิทยาแล้วไม่แน่ใจว่าฝรั่งจะเข้าใจเรามากน้อยแค่ไหน video call therapist จากไทยได้ที่ไหนบ้างค่ะ หรือสอบถาม email จิตแพทย์ไทยที่ไหนได้บ้างค่ะ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
ในเรื่องของ Video call therapy จะมีแอพพลิเคชั่นบางอย่างผ่านมือถือได้ เช่น See Doctor Now หรือ คลีนิกจิตวิทยาเอกชนบางแห่งก็จะมีการให้ service แบบ video call อยู่ครับดังนั้นส่งที่ผมแนะนำก็คืออยากให้ลองติดต่อไปตามที่ต่างๆเหล่านี้เพื่อที่จะลองทำเวลานัด ซึ่งการทำบำบัดนั้นอาจจะต้องทำเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง และอาจจะต้องใช้ระยะเวลาบ้างเล็กน้อยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ประสบการณ์และเหตุการณ์ในชีวิตของดิฉันเหมือนกับเจ้าของกระทู้นี้ 100% เลยค่ะ เหมือนมากจนทำให้ดิฉันต้องพาตัวเองหนีไปอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน จากที่ดิฉันได้ศึกษาลักษณะของ Narc Parents มาซักพักใหญ่ (หลายปี) คุณแม่ดิฉันเป็นโรคนี้แน่นอน และเท่าที่ศึกษามาทราบว่าโรคนี้ไม่มียารักษาให้หายค่ะ ดิฉันจึงอยากเรียนขอ contact ของเจ้าของกระทู้เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และเป็นเพื่อนปรับทุกข์กัน ไม่ทราบว่าพอจะเป็นไปได้หรือไม่คะ
ทำไมทิ้งน้องชายไว้กับแม่ละคะ
สงสัยว่าแม่เป็น narcissistic personality disorder ค่ะ หรือสุขภาพจิตไม่ปกติค่ะ คือตั้งแต่เราเล็กจนโต แม่เป็นคนเอาแต่ใจ โมโหง่าย ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ไม่ว่าเราทำดีแค่ไหน แม่ก็จะหาแต่ข้อเสียมาด่าว่า ไม่เคยชื่นชม หรือภูมิใจ จะเป็นคนบงการทุกอย่างในชีวิตลูก ตั้งแต่ตัดผมทรงอะไร ใส่ชุดไหนทุกวัน เวลาออกนอกบ้านทุกคนจะคิดว่าเราครอบครัวปกติ พอมาในบ้านแม่เป็นคนละคน จะข่มเหง เอาลูกเปรียบเทียบกับคนอิ่นตลอดเวลา จนเราไม่เคยมีความมั่นใจ ทำดีเท่าไหร่ก็ไม่พอ จนตอนเด็กๆตอน อายุ 13 ทำให้เราเคยคิดจะฆ่าตัวตายเพราะแม่ ถ้าเราทำอะไรดีดี ได้รางวัล เอาไปให้ดู แม่ก็ไม่เคยพูดกับเราว่าดีใจ หรือภูมิใจ แต่ถ้าต่อหน้าคนอื่นแม่จะเอาหน้า บอกว่าที่เราได้ดี เรียนเก่ง ก็เพราะเชื้อแม่ สิบกว่าปีที่ผ่านมา ท่านเป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำมาหากินอะไร ขอเงินคนอื่นใช้ด้วยวิธีโกหกหลายๆอย่าง ตัดขาดจากญาติพี่น้องแทบทุกคน ด่าคนอื่นว่าเลวสารพัท จนปัจจุบันดิชั้นอายุ 30 กว่าแล้ว อยู่ต่างประเทศ แม่ยิ่งร้ายแรงกว่าเดิม ใช้ emotional abuse กับคนใกล้ตัว แม่บอกน้องชายที่อยู่บ้านเดียวกันว่านอกจากแม่แล้วไม่มีใครรักน้อง น้องอายุ 20 กว่าๆ กลายเป็นคนไม่มีความคิดเห็นของตัวเอง โมโหง่าย ติดนิสัยเหมือนแม่ ตัดสินใจเองไม่ได้ สำหรับแม่ ถ้าเรามีความเห็นต่าง ถ้าเราพูดออกไปดีดี แม่จะเอาไปคิดว่าเราตะคอก ท่านเล่าเรื่องให้คนอี่นฟังซึ่งต่างจากเรื่องจริงอย่างมากเพื่อให้ดูเหมือนตัวเองเป็นเหยื่อ เพื่อให้ได้รับความสนใจ เห็นใจจากคนอื่น ทั้งที่แท้จริงท่านเป็นคนเปิดศึกด้วยคำด่าทอรุนแรงมาก ถ้าเห็นเรามีความสุข แม่จะหาเรื่องต่างๆมานั่งด่า เพื่อที่จะให้เรา down ตั้งแต่รูปร่าง หน้าตา การเงิน ทรงผม แม่ไม่เห็นใจ ใช้คำพูดด่าอย่างรุนแรง ไม่เคยขอโทษ ถ้าเราลำบากก็จะซ้ำเติม พูดถึงตัวเองว่าแย่กว่า แล้วก็ไม่รับฟังเรา กลายเป็นเรื่องแม่แทน ท่านไม่มีขอบเขต ถ้าประตูห้องล็อก จะไม่เคาะ แม่จะหากุญแจเปิดเข้าไปเลย อารมณ์โมโหร้าย หงุดหงิดง่าย เกรี้ยวกราด แม่บอกตั้งแต่เด็กๆว่าไม่น่ามีลูกเลย เพราะทำให้ชีวิตตนเองพัง จนปัจจุบันก็ยังโทษที่เราเกิดมา ตอนนี้เราแก่แล้ว ท่านจะ guilt trip เรา หาว่าท่านใช้เงินมากเพื่อเลี้ยงเรา แต่เรายังไม่ได้จ่ายคืนเพียงพอ แต่มีเงินเท่าไหร่ เราให้แม่ไปหมดหลายแสน เพราท่านอ้างว่าลำบาก แต่ที่บ้านท่านใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก ท่านยังเอาเงินเก็บตอนเด็กในบัญชีเราไปใช้จนหมด แล้วมาบอกว่าเงินเก็บเราก็เงินแม่ จนพอตอนนี้ดิชั้นจะแต่งงาน แม่ไม่ยอมรับ ด่าแฟนด้วยคำหยาบคายต่างๆนาๆ บอกว่าให้เลือกระหว่างแม่กับแฟน ดิชั้นเครียดมาก ไม่ทราบว่านี่เป็นนิสัยแม่หรือท่านสุขภาพจิตไม่ดี เรารู้สึกว่าไม่ได้ถูกเลี้ยงมาเหมือนคนปกติ เพราะต้องแก้ปัญหาเองตลอด ไม่มีที่พึ่งทางใจ หมอว่าแม่เป็นโรคมั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)