คือผมอายุ 20 มีอาการแน่ท้อง บางทีก็เจ็บจี๊ดๆเหมือนมดกัดแถวหน้าอกและก็กลางตัวเหนือสะดือขึ้นมาบางทีก็ร้อนๆท้องบ้าง ไม่ได้เป็นตลอดเวลาเป็นๆหายๆ จะรู้สึกได้ชัดสุดเวลาเริ่มหิว เป็นมาอาทิตกว่าๆแล้วครับ พึ่งกินยาลดกรดได้ 2-3 วันก็ดีขึ้นบ้างอาการแน่ท้องดีขึ้นเหลือแต่เจ็บจี๊ดๆที่ยังเป็นอยู่ ผมนอนดึกกินไม่ค่อยเป็นเวลา กินหนักช่วงมื้อเย็น ควรทำไงดีครับ(ขอบคุณครับ)

สวัสดีค่ะ อาการที่กล่าวมาอาจเป็น
1.อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ส่งผลให้มีอาการแสบร้อนท้องหรือมีอาการปวดท้องได้ทั้งก่อนทานอาหารหรือหลังทานอาหารค่ะ
2.มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากเกินไป การมีแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกจุก หรือแน่นบริเวณอกได้
3.ภาวะกรดไหลย้อน ทำให้เกิดอาการแสบ จุก หรือเจ็บจี๊ดๆบริเวณหน้าอกได้ เนื่องจากหูรูดกระเพาะอาหารหลวม ทำให้กรดออกมาในขณะย่อยอาหารมากเกินไป เมื่ออาหารที่ย่อยแล้วถูกบีบลงไปในลำไส้ จึงทำให้กรดส่วนหนึ่งไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดอาการแสบแน่นในทรวงอก หรือ แสบร้อนยอดอกได้

การทานยาลดกรดช่วยบรรเทาอาการได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้ค่ะ
1. ควรรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อค่ะ ที่สำคัญอาหารที่ทาน ควรเป็นอาหารที่ไม่รสจัด หรือ เผ็ดมากเกินไปซึ่งความเผ็ดจะยิ่งกระตุ้นให้แผลในกระเพาะอาหารที่เป็นอยู่เป็นมากขึ้นค่ะ
2. ไม่ควรทานอาหารมากเกินไป จนจุก หรือ แน่นท้อง ทำให้กระเพาะอาหารต้องทำงานหนัก ส่งผลให้ปวดท้องได้
3.งดทานอาหารที่มีแก๊สมากเกินไป เช่น ถั่ว น้ำอัดลม เป็นต้น
4.ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด ก่อนกลืนค่ะ
5.ไม่ทานแล้วนอนทันที ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคกรดไหลย้อนได้
6.พยายามผ่อนคลาย ไม่เครียดจนเกินไป
7.ออกกำลังกาย

การปรับพฤติกรรมอาจเป็นเรื่องยาก หากสามารถปฏิบัติได้จะช่วยเรื่องสุขภาพได้มากค่ะ ส่วนการรักษาแนะนำหากทานยาลดกรดแล้วยังไม่ดีขึ้น และยังเป็นเรื้อรัง ควรพบแพทย์ เพื่อรักษา โดยส่วนใหญ่ จะให้ยาลดกรด ชนิดเม็ดทานหรือยาน้ำควบคู่ เช่น Omeplazone Glaviscon Antacids เป็นต้น โดยต้องทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบ เพราะส่วนใหญ่แล้วแผลในกระเพาะอาหารต้องใช้เวลาในการรักษา จนกว่าแผลจะหายสนิท มักใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ผู้ป่วยหลายคนมักหยุดยาเอง เมื่อาการดีขึ้น ส่งผลให้เป็นโรคหรือมีอาการซ้ำๆได้อีก ดังนั้นแนะนำปฏิบัติตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดค่ะ