August 16, 2019 20:37
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
ตุ่มบริเวณอวัยวะเพศอาจเกิดจากได้หลายอย่าง เช่น
1) เริม ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำใส อาจมีตุ่มเดียวหรือหลายตุ่ม อาจจะมีแสบร้อนหรือเจ็บปวดร่วมด้วย
2) รูขุมขนอักเสบ อาจจะเป็นตุ่มหนอง เป็นหลายๆตุ่ม
3) หูดข้าวสุก ลักษณะจะเป็นตุ่มสีเนื้อ มีรอยบุ๋มตรงกลาง
4)หูดหงอนไก่ ติ่งเนื้อ ผิงขรุขระ คล้ายหงอนไก่/ดอกกะหล่ำ อาจทำให้ปัสสาวะแสบ คัน
5) ผื่นแพ้สัมผัส เช่น สารเคมี สบู่ แป้ง เป็นต้น
เบื้องต้นแนะนำไม่ควรบีบหรือแกะตุ่ม เพราะอาจทำให้เป็นแผล เกิดแผลเป็น และติดเชื้อแทรกซ้อนได้ หลีกเลี่ยงสิ่งที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ เช่น สบู่ ครีมอาบน้ำ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ และไปพบแพทย์ เพื่อตรวจดูอาการอย่างละเอียด เพราะแต่ละโรคมีวิธีรักษาที่แตกต่างกันครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
จำหน่ายยาทารักษาหูดหงอนไก่
"Aldara Cream Imiquimod 5% ยารักษาโรคหูดหงอนไก่"
ซองละ 250.- ส่งฟรี ems
สอบถาม สั่งซื้อที่เพจ
https://m.facebook.com/pages/category/Pharmacy---Drugstore/Aldara-Cream-ยารักษาโรคหูดหงอนไก่-206213550296754/
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
แผล/ตุ่มที่อวัยวะเพศสามารถเป็นได้หลายอย่างครับ ซึ่งควรจะต้อง ได้รับการซักประวัติ และตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยเฉพาะประวัติเพศสัมพันธฺที่ไม่ได้ป้องกันครับ
ตัวอย่างเช่น
-กลุ่มโรคติดค่อทางเพศสัมพันธ์
1.เริมที่อวัยวะเพศ เกิดจากเชือไวรัส herpes ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำใส เมื่อแตกออกตะแสบ และอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้
2.แผลริมแข็ง มักไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อซิฟิลิส ถ้าปล่อยไว้ จะหายเอง แต่เชื้อซิฟิลิส ตะยังควอยู่ รอวันที่จะทำให้เกิดผลแทรกซ้อนต่อระบบอื่นๆที่สำคัญได้ ถ้าไม่รีบรักษาครับ
3.แผลริมอ่อน เกิดจาก แบคทีเรีย ชื่อ Haemophilus Ducreyi มักมีอาการแสบ มีหนอง คนไข้จะเจ็บ แสบแผลมากครับ
4.หูดหงอนไก่ เป็นการติดเชื้อไวรัส เป็นก้อนหรือติ่งเนื้อ ลักษณะผิวอาจเรียบหรือขรุขระ สีอาจจะสีชมพู
สีน้ำตาล สีเนื้อ พบบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก และช่องคอครับ
การรักษาหูดหงอนไก่ มีหลายวิธีครับ ทั้งแบบใช้ยา และการผ่าตัด
1.การใช้ยา เช่น TCA , 5% imiquimod เป็นต้น ใช้ทาบริเวณหูด เพื่อให้เนื้อนั้นฝ่อไปครับ
2.การจี้เย็น และการผ่าตัด ใช้ในกรณีที่หูดมีขนาดใหญ่มาก หรือใช้ยาแล้วไม่ได้ผลครับ
นอกจากนี้ การรักษาโรคหูด ยังต้องรักษาคุ่นอนด้วยค่ะ ไม่เช่นนั้นแล้ว จะทำให้โรคหูด กลับมาเป็นซ้ำๆ ได้ครับ
กลุ่มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธฺนี้ การรักษาคล้ายกัน คือ การให้ยาฆ่าเชื้อ และการรักษาสุขอนามัยทางเพศ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอครับ
-กลุ่มโรคอื่นๆ
1.การติดเชื้อที่ผิวหนัง
2.ผิ่นแพ้ เช่น การแพ้ยา เป็นต้น
3.โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตนเอง (autoimmune)
ดังนั้น เมื่อมีตุ่มที่อวัยวะเพศ จะเห็นว่า สามารถเป็นได้หลายอย่าง แนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่ทเติมเพื่อให้การรักษาอย่างเฟมาะสมตามสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
แพทย์ที่ไปพบนี่เป็นคลินิคหมอผิวหนังได้ไหมครับหากอยากตรวจเลือดเพื่อให้ชัวร์ว่าไม่ได้เป็นโรคอะไรสามารถทำได้ไหมครับ
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากลักษณะตุ่มตามที่แนบรูปมานั้นอาจเกิดได้ทั้งจากการอักเสบของผิวหนังจากการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วไป และจากการเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่างได้ เช่น เริม หูดข้าวสุก ซิฟิลิส
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
แพทย์ที่ไปพบนี่เป็นคลินิคหมอผิวหนังได้ไหมครับหากอยากตรวจเลือดเพื่อให้ชัวร์ว่าไม่ได้เป็นโรคอะไรสามารถทำได้ไหมครับ
มีตุ่มขึ้นบรืเวณอวัยวะเพศ มีเพศสัมพันธ์มาบ้าง แต่ใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)