พอดีว่าตัวของดิฉันเองติดเชื้อราจากการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาวปลา พอรักษามาได้ระยะนึงด้วยยาสอดจนหายแล้ว กลับไปมีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีก ตกขาวก็กลับมามีกลิ่นเหม็นคาวปลาอีก เมื่อไปซื้อยาสอดมาสอด ก็หายเป็นปกติ อยากทราบว่าเป็นไปได้มั้ยที่เชื้อราจะไปติดอยู่ภายในอวัยวะเพศของแฟนเมื่อมีเพศสัมพันธ์ทำให้กลับมาเป็นอีก หรือเป็นเพราะช่วงเวลาในการมีเพศสัมพันธ์มันใกล้กับการรักษาเกินไป ก็คือ เมื่อรักษาหายครบ1อาทิตย์แล้วจึงกลับไปมีเพศสัมพันธ์ทำให้เชื้อยังไม่หายขาดเลยกลับมาเป็นอีก อยากทราบแค่ว่าผู้ชายมีโอกาสเป็นได้มั้ยคะแบบที่เค้าไม่รู้ตัว เพราะแฟนไม่มีอาการแสบหรือคันอะไรเลย

มีโอกาสเป็นไปได้ครับ ที่ผู้ชายจะมีเชื้ออยู่แต่ไม่แสดงอาการ ยกตัวอย่างเช่น เชื้อ Trichlmonas vaginalis หรือโปรโตชัวในช่องคลอด ซึ่งผู้ที่ติดเชื้อจะแสดงอาการเนื่องจากเยื่อบุช่องคลอดมีความเสื่อมโทรมลงหลังจากการติดเชื้อ ตามด้วยการสะสมของเม็ดเลือดขาวทำให้สารคัดหลั่งจากช่องคลอดมีมากขึ้นและมีสีขาวหรือค่อนข้างเขียว และมีกลิ่นที่รุนแรง ผู้ติดเชื้อจะมีอาการคันช่องคลอด ปากมดลูกแดง มีการบวมแดงของช่องคลอด เป็นต้น แต่ในผู้ชายที่ติดเชื้อโปรโตซัวชนิดนี้มักจะไม่ปรากฏอาการ แต่อย่างไรก็ตามอาจมีอาการระคายเคืองอันเนื่องมาจากท่อปัสสาวะอักเสบหรือต่อมลูกหมากอักเสบได้ครับ

เบื้องต้น แนะนำให้กลับไปพบแพทย์.้ำก่อนนะครับ ควรทำการตรวจซ้ำ เพราะดูแล้วน่าจะเป็นบ่อย ควรพาแฟนไปด้วยครับ ถ้าหากว่าอาการเป็นปกติแล้ว ไม่มีเชื้อแล้วก็มีเพศสัมพันธ์ได้ครับ หรือการมีเพศสัมพันธุ์ถ้าสวมถุงยางอนามัยก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เช่นกันครับ

การจะตรวจภายในหรือไม่นั้น ขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ที่ทำการตรวจครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้ามีปัญหาในบริเวณดังกล่าว ส่วนใหญ่แพทย์ก็จะตรวจภายในให้ครับ ส่วนค่ารักษาพยาบาลนั้นขึ้นกับสิทธิการรักษาที่มีอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น เช่น 30บาท, ประกันสังคม, ข้าราชการ หรือชำระเงินเอง ถ้าชำระเงินเอง ค่าตรวจแพทย์ประมาณ 50-100 บาท ค่ายาประมาณ 100-200 โดยประมาณครับ