April 14, 2018 20:41
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ พอดีไม่เห็นภาพที่เป็นนะคะ แต่ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว และผื่นนี้มีอาการเป็นมาค่อนข้างนาน หรือเป็นๆหายๆ ก็พอจะอธิบายอาการจากผื่นภูมิแพ้ (ผิวหนังอักเสบ) ได้ค่ะ ยังไงคนไข้ลองสังเกตดูว่าคล้ายผื่นภูมิแพ้แบบนี้หรือเปล่านะคะ
ผิวหนังอักเสบในลักษณะแบบเฉียบพลันจะมีรอยโรคเห่อแดงคัน อาจมีตุ่มน้ำใสๆเล็กๆมีน้ำเหลืองเยิ้มซึมและอาจจะมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังร่วมด้วยได้, ผู้ป่วยบางรายอาจจะมีผื่นในระยะรองเฉียบพลัน ซึ่งมีขุยแห้งหรือสะเก็ด หรือ เกิดมีผื่นแบบเรื้อรังซึ่งเป็นปื้นนูนหนา คันและมีขุย ร่วมด้วยการหนาตัวของผิวหนังเกิดจากการถูไถ หรือเกา
สำหรับแนวทางการป้องกันและรักษา
1. การ “หลีกเลี่ยง” ปัจจัยซึ่ง “กระตุ้น” ทำให้ผื่นเห่อขึ้น ดังได้กล่าวแล้ว เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในส่วนของอาหาร หากทราบว่าอาหารชนิดใด (ซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกันในแต่ละคน) เป็นเหตุทำให้โรคกำเริบก็ควรหลีกเลี่ยงเสีย
2. ควรเลือกใช้ผ้าเนื้อโปร่งเช่นผ้าฝ้าย ไม่ควรใช้ผ้าขนสัตว์ หรือ หนานุ่ม เนื้อหยาบ การซักล้างผ้าและควรซักล้างผงซักฟอก หรือ น้ำยาปรับผ้านุ่มออกก่อน
3. พยายามหลีกเลี่ยงอากาศ ร้อนจัด หนาวจัดเกินไป โดยเฉพาะนอนในห้องปรับอากาศซึ่งอุณหูมิเย็นจัด ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำ หรือ อาบน้ำร้อนน้ำอุ่นที่อุณหภูมิสูง เพราะผิวที่แห้งอยู่แล้วจะยิ่งแห้งมากขึ้นอีก หรือการอยู่ในที่ร้อนอบอ้าว, การออกกำลังกายที่มีเหงื่อออกมากๆ
4. การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ควรเลือกผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่ระคาย ปราศจากน้ำหอม และอย่าฟอกสบู่บ่อยๆ ทำความสะอาดบ่อยๆ หรืออาบน้ำบ่อยๆ จนเกินไป สบู่ที่เคลือบผิวบางประเภทเมื่อล้างออกจะลื่นๆผิว ไม่ควรพยายามขัดหรือล้างให้ออกจนหมด
5. หลีกเลี่ยงการใช้ อัลกอฮอล์, ยาฆ่าเชื้อโรค, ยาแดง, ทิงเจอร์, ยาหม่อง, ด่างทับทิม ฯลฯ ใส่บริเวณผื่นหรือแผล โดยคิดว่าผื่นนั้นเป็นสิ่งสรกปรกหรือเชื้อโรค เพราะแทนที่จะดีขึ้นกลับทำให้มีการระคายเคืองมาก ทำให้ผื่นกำเริบหรือเห่อขึ้นได้
6. การป้องกันความแห้งของผิว ใช้สารเคลือบผิว อาจเป็นโลชั่นชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดผิวแพ้และปราศจากน้ำหอม, น้ำมันเคลือบผิว (ใช้ในเฉพาะกรณีผิวแห้งมาก) ควรทาโลชั่น ครีมบำรุงผิวชนิดไม่ก่อผิวแพ้ หรือ สารเคลือบผิวต่างๆ ภายในระยะเวลา 3- 5 นาทีหลังซับผิวหรือเช็ดตัวให้แห้ง โดยห้ามเช็ด ขัดหรือถูตัวแรงๆ
7. ในกรณีทีมีอาการคันมาก แพทย์จะพิจารณาการให้ยาต้านภูมิแพ้ หรือยาแก้คัน บางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้ง่วงได้
8. การใช้ยาทาเฉพาะที่เพื่อทาผื่น มีการใช้ยาหลายชนิด เช่นการใช้ยาสเตียรอยด์ครีม ซึ่งจะให้ผลการรักษาที่ทำให้ผื่นยุบได้เร็วได้ผลดีมาก แต่อาจกลับเป็นซ้ำขึ้นได้เร็วเช่นกัน การใช้ยาชนิดนี้ต้องมีความระวังมากโดยเฉพาะชนิดของยาที่ใช้ และตำแหน่งที่จะใช้ยาทา หากใช้ไม่ถูกต้องอาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ ซึ่งบางครั้งรุนแรง จึงไม่ควรซื้อยาทาในกลุ่มนี้ใช้เอง โดยทั่วไปแพทย์ผิวหนังจะใช้ยากลุ่มนี้อย่างระวัง เพื่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุดโดยยังคงประสิทธิภาพมากที่สุด
9. สุขอนามัยส่วนตัว ควรตัดเล็บให้สั้น อย่าให้มีเล็บแหลมคม เพราะอาจจะเกาจนเกิดแผล หรือ แผลติดเชื้อร่วมด้วยได้
(ข้อมูลจาก หน่วยโรคผิวหนัง รพศิริราช)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีอาการคันเป็นผื่นแดงเป็นจั้มๆไม่รู้ว่าเกิดจาดแพ้ขนสัตว์หรือว่าฝุ่นไรหรือป่าวส่วนตัวเป็นภูมิแพ้อยู่แล้วด้วยคอยจะคันในจมูกแล้วก้อมีอาการจามตามมาแล้วต่อมาก้อมีน้ำมูกไหลอย่างงี้จะเกี่ยวกับภูมิแพ้หรือป่าวแล้วช่วงนี้ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายด้วยทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทันนาะคาะรบกวนสอบถามหน่อยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)