ลูกชายเป็นลมพิษค่ะอาทิตย์นี้ประมาณ3ครั้งแล้ว ครั้งแรงเขามีอาการไอเลยให้ทานยาแก้ไอ อยู่ดีๆก็เกิดแพ้เป็นลมพิษขึ้นทั้งตัว ขึ้นหัวด้วยค่ะ ยาแก้ไอที่เขาทานเคยกินแล้วน่ะค่ะ ไม่รู้อยู่ๆทำไมถึงแพ้ 2 รอบหลังนี่นึกจะเป็นก็เป็นเลยค่ะขึ้นเต็มขามันปูดบวมแดงมีขนาดใหญ่เพราะเขาเกาด้วย เวลาที่เขาเป็นลมพิษเขาจะไอหนักมากค่ะ ไอถี่มากๆ ควรทำยังไงดีค่ะ เขาจะเป็นโรคภูมิแพ้ตัวเองไหม ถ้าไปหาหมอจะรู้ไหมค่ะว่าเขาเป็น

สวัสดีค่ะ โรคผื่นลมพิษ มี 2 ชนิดค่ะ คือ แบบที่เรื้อรัง (เป็นมานานกว่า 6 สัปดาห์ ) และแบบ เฉียบพลัน (น้อยกว่า 6 สัปดาห์) ซึ่งเมื่อเป็นลมพิษ บางคนจะมีปากบวมร่วมด้วยได้ค่ะ >>>สำหรับลมพิษ เฉียบพลัน สาเหตุที่พบบ่อยสุด คือ *** 1.การติดเชื้อ ได้แก่ เป็นหวัดคัดจมูก ติดเชื้อไวรัส ซึ่ง บางคนจะเป็นบ่อยช่วงหน้าฝนค่ะ ซึ่งถ้าคนไข้มีประวัติ ไอ น้ำมูกร่วมด้วยก็จะทำให้นึกกึงสาเหตุนี้เเป็นหลัก ค่ะ *** 2. การแพ้ยา เช่น ยากลุ่ม nsaid หรือใน กรณีนี้ คือ ยาแก้ไอที่คนไข้สงสัย ซึ่งบอกได้ยาก ควรต้องได้รับการซักประวัติความสัมพันธ์ระกว่างการกินยา กับอาการอื่น ร่วมกับผื่นลมพิษอย่างละเอียดนะคะ 3.อาหาร ซึ่งอาการจะเกิดทันทีหลังทานอาหารที่แพ้ค่ะ ซึ่งในกรณีนี้ อาจไม่ทีอาหารที่น่าสงสัยค่ะ การรักษาชนิดเฉียบพลันคือ รักษาตามสาเหตุและรักษาตามอาการค่ะ เช่น การรักษา ไข้หวัดไอ ให้ดี ให้ยาแก้คัน ยาแก้แพ้ทาน อาการจะค่อยๆดีขึ้น เมื่อการติดเชื้อหายสนิท นอกจากนี้ ให้สังเกตอาการที่รุนแรง ที่ต้องไป รพ ทันที ได้แก่ อาการของ anaphylaxis คือ การแพ้อย่างรุนแรง ได้แก่ อาการแน่นหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน หน้ามืด เป็นลม ความดันโลหิตตก มีลมพิษทั่วตัว ปากบวมหน้าบวม เป็นต้น ถ้ามีอาการดังนี้ ให้รีบไป รพ ทันทีค่ะ >>สำหรับชนิดเรื้อรัง มีสาเหตุ คือ 1.การติดเชื้อเช่นกัน เช่น virus EBV 2.autoimmune disease (ภูมิคุ้มกันตนเองมีมากเกินไป) 3.ลมพิษที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ เช่น ลมพิษจากความเย็น จะเกิดเมื่ออยู่ในที่เย็นหรือสัมผัสความเย็น , ลมพิษจากการขูดขีดผิวหนัง เป็นต้นค่ะ โดยส่วนใหญ่ ลมพิษเรื่อรัง มักจะรักษาตามอาการค่ะ หลักๆคือการใหยากลุ่ม antihistamine ค่ะ (ซึ่งโดยทั่วไป จะเริ่มจากลองให้น้อยๆก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นก็จะปรับโดสขึ้นไป 2-4เท่า ของโดสปกติและต้องกินยาสม่ำเสมอเพื่อควบคุมอาการค่ะ) และมียาอื่นๆอีกหลายชนิด ที่จะใช้รักษาโรคลมพิษเรื้อรังค่ะ แต่ต้องให้ภายใต้ความดูแลของผุ้เชี่ยวชาญเท่านั้นค่ะ