หนูมีอาการเครียด กังวล ตลอดเวลา พยายามหาอะไรทำ ก็ไม่ดีขึ้น กบัวการที่ต้องออกไปเจอโลกภายนอก กลัวการเจอผู้คน เจอเพื่อน แม้แต่ครอบครัวของตัวเองก็กลัว เหมือนถุกกีดกัดจากสังคม พอมีอะไรมากระทบจิตใจก็จะรู้สึกดาวน์ ไม่มีสมาธิที่จะทำอะไร จนบางทีก้อรู้สึกใจสั่น เวียนหัว มึนหัว ปวดหัว คลื่นไส้ จนเคยคิดฆ่าตัวตาย บางทีร้องไห้แบบไม่มีสาเหตุ ไม่เคยมีความสำคัญกับใคร เป้นคนที่ไม่เคยมีใครนึกถึง เหมือนเป้นส่วนเกินตลอด อยากมีชีวิตที่มีความสุขเหมือนคนอื่นบ้าง หนูต้องทำยังไงค่ะ ต้องเจ้ารักษามั้ย ละค่าใช่จ่ายประมาณเท่าไหร่ จะเสียประวะติมั้ยค่ะ ถ้าเข้ารักษา พอดีใกลเจะเรียนจบแล้ว

สามารถรักษาโดยใช้สิทธิบัตรทองได้ครับ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถเช็คสิทธิการรักษาได้จากเว็บไซต์ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml เนื่องจากการรักษาอาการดังกล่าวต้องตรวจติดตามเป็นเวลาค่อนข้างนานอาจมีค่าใช้จ่ายสะสมที่สูงได้ครับ
———————
การตรวจรักษาเป็นความลับของผู้ป่วยไม่เสียประวัติแน่นอนครับ

สวัสดีครับ
อาการที่เล่านี้มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ

อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ ทั้งนี้ไม่ต้องกลัวเรื่องการเสียประวัติเนื่องจากการรักษาทางการแพทย์จะถูกเก็บไว้เป็นความลับระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์อยู่แล้วครับ

ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นก็สามารถไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลที่มีสิทธิการรักษาอยู่ก่อนได้ เพราะจะช่วยให้สามารถรักได้ฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าหากไปรักษาในโรงพยาบาลอื่นก็จะมีค่าใช้จ่ายต่อครั้งที่ประมาณ 1000-2000 บาทในโรงพยาบาลรัฐและ 2000-4000 บาทในโรงพยาบาลเอกชนครับ

ความรู้สึกไร้ค่า เศร้า ร้องไห้ คิดอยากฆ่าตัวตาย อาจเป็นความผิดปกติทางด้านอารมณ์และจิตใจ ได้แก่ วิตกกังวล ซึมเศร้า ความผิดปกติทางบุคลิกภาพและการปรับตัว เป็นต้น

ในกรณีที่มีอาการต่อเนื่องนานเกินกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป อาจต้องพึงระวังเรื่องของภาวะซึมเศร้านะคะ

ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น

อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง

หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม

การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ

ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ

สวัสดีครับ

ขอเพิ่มเติมนะครับ ความรู้สึกต่างๆที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกกลัว หรือการที่คุณเองถูกผู้อื่นกีดกันออกมานั้นทำให้รู้สึกว่าโดดเดี่ยว ไม่มีที่พึ่ง ในบางครั้งถึงแม้ว่าเราจะไม่สามารถควบคุมผู้อื่นหรือสิ่งแวดล้อมได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถจัดการได้ก็คือการหันกลับมาจัดการกับความรู้สึกของตนเองนะครับ .ซึ่งจุดเริ่มต้นอาจจะเริ่มจากการที่คุณได้เล่าเรื่องราวบางอย่างให้กับคนที่คุณไว้ใจฟัง หรือแม้กระทั่งการพบนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์เพื่อรับการช่วยเหลือตรงนี้นะครับ

หากตอนนี้คุณกำลังเรียนอยู่ในะระดับมหาวิทยาลัย ในมหาวิทยาลัยบางแห่งอาจจะมีให้บริการการให้คำปรึกษากับนิสิต นักศึกษาแบบไม่เสียค่าบริการอยู่นะครับ อยากให้คุณลองค้นหาข้อมูลตรงนี้ดู หากว่าเข้าไปรับการบริการจากโรงพยาบาลในแผนกจิตเวช หรือคลีนิกที่เกี่ยวข้องกับความเครียดหรือจิตใจ ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นซึ่งหากว่ามีข้อจำกัดในเรื่องทุนทรัพย์ การใช้สิทธิประกันสุขภาพหรือที่เรียกกันว่าสิทธิบัตรทองตรงนี้ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่จะสามารถทำให้ประหยัดเงินไปได้ครับ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาลได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้นะครับ

http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml

ซึ่งการเข้ารับบริการจะต้องไปเริ่มต้นที่คลินิกหรือโรงพยาบาลที่คุณขึ้นสิทธิไว้ และหากว่าโรงพยาบาลหรือคลินิกนั้นไม่มีบริการในส่วนของจิตเวชหรือการให้คำปรึกษาเชิงสุขภาพจิต ทางคลินิกหรือโรงพยาบาลนั้นๆก็จะทำการออกใบส่งตัวให้คุณไปรับการบริการยังโรงพยาบาลอื่นๆที่เหมาะสมได้ครับ

นอกจากการเข้าพบกับผู้เชี่ยวชาญแล้ว การหันกลับมาดูแลตนเองให้มากขึ้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือสนุกผ่อนคลาย และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความตึงเครียดลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งในเรื่องของอารมณ์ที่เกิดขึ้น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ และหากมีคำถามอืนๆก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ