April 06, 2019 23:30
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การสร้างเพื่อนในจินตนาการแล้วมีการพูดโต้ตอบออกมา อาจเป็นวิธีการจัดการความเหงาที่ไม่เหมาะสมนัก การเก็บตัวอยูในโลกของตัวเอง หมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเอง เป็นการเก็บกดไม่ได้ระบายอารมณ์ความรู้สึกออกมา ซึ่งหากเป็นนานๆ สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพจิต ทำให้ความคิด การรับรู้ผิดปกติ แยกความจริงกับโลกจินตนาการไม่ได้ (หลุดโลก) และอาจนำไปสู่อาการของโรคจิตเภทก็เป็นไปได้ค่ะ
ในกรณีที่หนูยังพอรู้ตัวว่ามีอาการผิดปกติไปจากคนทั่วไป อยากแนะนำให้หนูได้ผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีที่เหมาะสม เช่น การออกไปข้างนอก เปิดหูเปิดตา พูดคุยกับคนในครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน ออกกำลังกาย ทำงานศิลปะหรืองานอดิเรกที่ชอบให้เพลิดเพลิน เป็นต้น หากทำแล้วยังควบคุมความคิดไม่ได้ ยังรู้สึกว่าต้องการสร้างจินตนาการอยู่บ่อยๆ ก็แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการ รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมนะคะ
แล้วการที่คนเราคุยกับสิ่งศักสิทธิ์และเชื่อว่าเขามีตัวตนจริงๆแตกต่างกับเพื่อนในจินตนาการอย่างไรคะ เช่น คนที่นับถือศาสนาคริส เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง พูดคุยกับพระผู้เป็นเจ้า เป็นเรื่องปกติ แต่กลับไม่ได้มีปัญหาทางจิต แถมยังสุขภาพจิตดีขึ้นอีกด้วย
ขอบคุณครับ แล้วผมเคยอ่านเจอว่า เด็กเล็กๆ มีเพื่อนในจินตนาการ พูดกับเพื่อนในจินตนาการ ไม่ถือว่าผิดปกติ อันนี้จริงไหมครับ แล้วถ้ามันถือว่าปกติในเด็ก ทำไมในผู้ใหญ่ ถือว่าผิดปกติ อันตรายครับ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แล้วกว่าจะเปิดเทอมมหาลัย อีกนานมาก 4-5เดือน ควรทำยังไงดีครับ วันๆก็เหงามากและเบื่อ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การที่เด็กมีจินตนาการถือเป็นความปกตินั่นเป็นเพราะเด็กและผู้ใหญ่มีพัฒนาการต่างกัน วุฒิภาวะต่างกัน ประสบการณ์การรับรู้แยกแยะความจริง-ไม่จริง เหมาะสม-ไม่เหมาะสม ได้ไม่เท่ากันค่ะ
ในกรณีที่เหงามาก พี่แนะนำให้ออกกำลังกาย หากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่สนใจมาทำนะคะ เราจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่หมกมุ่นกับความคิดเดิมๆ ลองมองไปกว้างๆ ชีวิตเรามีหลายด้าน มีอะไรให้เราลองทำอีกเยอะแยะ นะคะ เป็นกำลังใจให้หนูนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณมากครับ แล้วผมเคยอ่านมาว่า การพูดคุยกับตัวเองเป็นเรื่องปกติ แต่ผมสงสัยว่าการพูดคุย แบบตอบโต้ กับตัวเอง เหมือนมีตัวเองอีกคน ยังงี้ปกติหรือครับ
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
อยากจะขออนุญาติตอบคำถามเพิ่มเติมนะครับว่าหากเรารู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนในจิตนาการของเราเอง ซึ่งก็อาจจะเป็นการรับมือกับความเหงาในรูปแบบของคุณได้ แต่หากการรับรู้ถึงตัวตนที่ไม่มีอยู่จริงโดยที่เรา เชื่อว่า บุคคลคนนี้เป็นคนที่มีอยู่จริง ตรงนี้ก็อาจจะถูกวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคจิตเภท โดยส่วนมากแล้วสิ่งที่อาจจะต้องระวังก็คือ การที่เราเชื่อในสิ่งที่ตัวตนพูดออกโดยที่คิดว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งบางครั้งหากตัวตนที่เราสร้างขึ้นมาพูดในด้านลบมากๆ ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกแย่ หรือทำให้เกิดอาการหวาดระแวงขึ้นได้ครับ
ดังนั้นหากยังรับรู้และแยกแยะความเป็นจริง หรือรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เพื่อนในจินตนาการของเราคุยกับเราเป็นเรื่องของความคิดเห็นหรือว่าข้อเท็จจริง ตรงนี้ก็อาจจะยังไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงในเรื่องของเพื่อนในจินตนาการ แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งที่อาจจะต้องมาแก้ไขกันต่อไปก็คือเรื่องของความเหงาที่เขามา ซึ่งผมอยากจะชวนให้คุณได้ลองติดต่อกับเพื่อนๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือ โซเชี่ยลมีเดียที่ในปัจจุบันได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น และช่วยให้เรารู้สึกว่าเรายังสามารถติดต่อกับเพื่อนๆได้แม้ว่า ตัวจะอยู่ไกลกันครับ ลองหากิจกรรมด้านนอกทำด้วยแบบที่พี่นักจิตได้แนะนำว่า หากมีคำถามอื่นๆเพิ่มเติมก็สอบถามเข้ามาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือถ้าอย่างตามที่คุณหมอพูดอะครับ แล้วเราจะรู้ได้ไง มั่นใจได้ไงว่าถ้าเราสร้างเพื่อนในจินตนาการ คุยกับเพื่อนในจินตนาการ แล้วเราจะแยกแยะออก ไม่หลงผิด ไม่ปนมั่ว แล้วสุดท้ายก็เป็นคนบ้า หลุดโลก
แล้วถ้าผมลองไปใช้วิธีนั้น จะมั่นใจหรือรู้ได้ไงครับ ว่าผมจะแยกแยะมันออกมั้ย หรือไม่ใช่ว่า พอผ่านไปๆ ผมแยกแยะไม่ออกอ่าคับ คือถ้าเราเลือกที่จะไม่ทำวิธีนี้ได้ ก็ไม่ควรทำ ห้ามทำใช่ไหมครับ เสี่ยงเกินไป?
แล้วผมก็ไม่มีเพื่อนเลยด้วยครับ ไม่มีใครให้ติดต่อ
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
อันนี้อาจจะต้องถามตนเองนะครับว่ามีวิธีการอะไรไหมที่เราจะสามารถแยกแยะเพื่อนในจิตนาการของเรากับเพื่อนในโลกแห่งความเป็นจริงได้ เพราะว่า จากที่คุณเล่ามาคุณก็ยังพบแยกได้ว่าเพื่อนของคุณนี้เป็นเพื่อนในจินตนากรไม่ใช่เพื่อนในชีวิตจริง ซึ่งหากคุณคิดว่าการสร้างเพื่อนตรงนี้เป็นความเสี่ยง ก็อาจจะลองหาวิธีอื่นดีไหมครับในการที่เราจะลองพูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ผมแนะนำว่า หากต้องการเริ่มรู้จักกับใครใหม่ๆ อาจจะลองดูคนที่มีความสนใจร่วมกันกับเรา เช่น การไปเล่นกีฬา ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ หรือว่าการลองเล่นเกมส์ online อะไรพวกนี้ดูก็เป็นจุดเริ่มต้นที่อาจจะทำให้เราได้ลองพูดคุยกับคนอื่นนะครับ
แต่ก็แค่อาจจะต้องระวังในเรื่องของขอบเขตเวลาที่เราจะทำความรู้จักกับคนแปลกหน้า ไม่ให้เขาเข้ามาในพื้นที่ส่วนบุคคลของเราหรือให้เขาชักชวนเราไปทำในสิ่งที่อันตราย หรือว่าหลอกลวงเราครับ อันนี้ก็อาจจะต้องเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องระวังไว้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
อายุ 19 แล้ว ไม่มีเพื่อนเลยซักคน (ตอนมัธยม ทะเลาะกับเพื่อน ไม่มีเพื่อนเลย) วันๆก็อยู่บ้าน รอเปิดเทอมเข้ามหาลัย อีกนาน ถ้าเหงามากๆ แล้วสร้างเพื่อนในจินตนาการขึ้นมา คุยกับเพื่อนในจินตนาการ ถือว่าผิดปกติไหมครับ เป็นโรคจิตเภท? คนบ้า?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)