ผิดหวังจากการการเรียน สังคม และเพื่อน ทำให้ไม่กล้าเข้าสังคม เคยมีปัญหากับเพื่อนตอนม.ปลาย เลยแยกตัวออกมาอยู่คนเดียว รู้สึกโดดเดี่ยว บางครั้งก็ปกติ เข้ามหาลัยก็กลัวเพื่อนรู้ความหลัง กลัวเพื่อนรับอดีตไม่ได้กลัวไปหมด กลัวโดนตีตัวออกห่าง กลัวการถูกลืม เลยมีเพื่อนน้อย ที่จริงแล้วชอบเฮฮา แต่ตอนนี้กลับเก็บตัว และเรื่องในอดีตก็ย้อนกลับมาทำร้ายเสมอ เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่ก็กลัวบาป ควรปรับตัวอย่างไรดีคะ

สวัสดีครับ
จากที่เล่ามานั้นอ่านดูแล้วตัวคุณน่าจะผ่านประสบการณ์ในอกีตที่ไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้ในปัจจุบันเกิดความกลัวว่าอาจมีความผิดพลาดเหมือนกับในอดีตเกิดขึ้นอีก

แต่ในความเป็นจริงเรื่องราวในอดีตก็เป็นแค่อดีตครับ ในปัจจุบันนั้นคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ใหม่ สิ่งแวดล้อมแบบใหม่ กลุ่มสังคมเพื่อนใหม่ จึงไม่ควรเอาประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีต มาเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันครับ

การสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนนั้นไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ถ้าไม่เริ่มจากตัวเราเอง หมออยากให้คุณลองรวบรวมความกล้าเพื่อเข้าไปหาเพื่อนอีกครั้ง เราสามารถสร้างเพื่อนใหม่ได้โดยเริ่มต้นจากการแนะนำตัวทำความรู้จักกัน มีน้ำใจให้กัน และมีการแบ่งปันกันครับ ถ้าเริ่มต้นได้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในลำดับต่อมาจึงจะค่อยๆตามมา และเกิดความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนในที่สุด

แต่ถ้าคุณรู้สึกว่ายังมีความกล้าไม่พอ หรือไม่สามารถทำได้ หมอแนะนำให้คุณลองไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการ ความคิด และขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ครับ

และในกรณีที่ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตในสังคม การเรียน หรือการทำงานอย่างชัดเจน มีอารมณ์เศร้ามากผิดปกติ เบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หวาดกลัวกับประสบการณ์ในอดีตมากเกินไป ก็ยังอาจมีสาเหตุมาจากโรคซึมเศร้า หรือโรคกลัวการเข้าสังคมได้ครับ
ซึ่งทางจิตแพทย์ก็สามารถให้ความช่วยเหลือในส่วนนี้ได้เช่นกัน

ในกรณีที่มีอาการมานานเป็นปี อาจมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้ค่ะ
เบื้องต้นทำแบบประเมินภาวะซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนก็ได้ค่ะ โดยให้สำรวจอาการภายในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมารวมวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยเพียงใด โดยให้คะแนนแต่ละอาการดังนี้
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7วัน 1 คะแนน
มากกว่า 7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน

ลักษณะอาการในช่วง 2 สัปดาห์
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
5. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
6. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวต้องผิดหวัง
7. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
8. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
9. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
รวมคะแนน หากคะแนนรวมมากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป ก็อาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้าได้ค่ะ ซึ่งควรเข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมจากจิตแพทยฺ์โดยวิธีการรักาาที่ได้ผลมักจะใช้ยาร่วมกับการทำจิตบำบัด หากพยายามที่จะปรับตัวด้วยตัวเองนั้นอาจทำได้ยากซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยเสียเวลา เสียโอกาสในการเข้ารักษา และอาจทำให้โรคพัฒนารุนแรงมากขึ้นจนรักษาได้ยากค่ะ ถ้ารีบเข้ารับการรักาาจากจิตแพทย์จะทำให้เรากลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้งนะคะ

สามารถไปพบจิตแพทย์ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องมีผู้ปกครองได้ครับ ทั้งนี้ให้เตรียมบัตรประชาชนไปด้วยเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนในการเข้ารับการตรวจรักษา และยืนยันสิทธิการรักษาครับ

และถ้าไปตรวจในโรงพยาบาลที่มีสิทธิการรักษาอยู่ก็สามารถตรวจรักษาได้ฟรีหรือมีค่าใช้จ่ายส่วนเกินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ