December 18, 2018 08:12
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ยา Ketoconazole นั้นเป็นยาสำหรับใช้รักษาการติดเชื้อราครับ แต่จากลักษณะแผลที่เกิดขึ้นตามรูปที่แนบมานั้นมีลักษณะที่เหมือนกันติดเชื้อราค่อนข้างน้อย แผลในลักษณะนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียอื่นๆมากกว่า เช่น เชื้อแบคทีเรียทั่วไป แผลริมอ่อน แผลริมแข็งจากเชื้อซิฟิลิส รวมถึงอาจเกิดจากเชื้อเริมถ้าหากมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นนำมาก่อนที่จะเป็นแผลครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าอาจกลับไปพบแพทย์ในโรงพยาบาลเพื่อตรวจประเมินแผลซ้ำอีกครั้ง ซึ่งถ้าลักษณะแผลไม่ชัดเจนก็อาจเก็บตัวอย่างจากแผลไปตรวจหาเชื้อก่อโรคที่แน่นอนก่อนทำการรักษาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ แผลดังกล่าว อาจเกิดได้จากหลายอย่างค่ะ
ตัวอย่างเช่น
1.บาดแผลจากการกระทบกระแทก แกะเกา ฉีกขาด
2.แผลที่เกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (ต้องดูบริเวณอื่นๆ ด้วย และเนื่องจากรูปที่ให้มาไม่ชัดเจนนักนะคะ) ตัวอย่างเช่น
1.เริมที่อวัยวะเพศ เกิดจากเชือไวรัส herpes ลักษณะจะเป็นตุ่มน้ำใส เมื่อแตกออกตะแสบ และอาจมีการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้
2.แผลริมแข็ง มักไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อซิฟิลิส ถ้าปล่อยไว้ จะหายเอง แต่เชื้อซิฟิลิส ตะยังควอยู่ รอวันที่จะทำให้เกิดผลแทรกซ้อนต่อระบบอื่นๆที่สำคัญได้ ถ้าไม่รีบรักษาค่ะ
3.แผลริมอ่อน เกิดจาก แบคทีเรีย ชื่อ Haemophilus Ducreyi มักมีอาการแสบ มีหนอง คนไข้จะเจ็บ แสยแผลมากค่ะ
กลุ่มโรคติดค่อทางเพศสัมพันธฺนี้ การรักษาคล้ายกัน คือ การให้ยาฆ่าเชื้อ และการรักษาสุขอนามัยทางเพศ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอค่ะ
แนะนำให้ไปตรวจเพิ่มเติม เพื่อรักษาให้ตรวจุด สำหรับยา ketoconaze เป็นยาแก้เชื้อรา ซึ่งหากใช้แล้วไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ค่ะ
ข้อแนะนำเพิ่ทเติม คือ งดแคะแกะเกา เวลาล้าง ทำความสะอาด ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือการสวนล้างช่องคลอดใดๆ ไม่แนะนำให้สวนล้างบ่อยๆ เนื่องจากช่องคลอดจะเสียสมดุลแบคทีเรียที่มีอยู่ตามปกติ และจะเป็นเชื้อราได้ง่าย, ทำความสะอาดหลังปัสสาวะและหลังจากมีเพศสัมพันธ์ , เวลาเช็ดอวัยวะเพศหลังขับถ่าย ควรเช็ดจากหน้าไปหลัง ,กางเกงในไม่ควรคับ และแห้งไม่อับชื้น , มีคู่นอนแค่คนเดียว และถ้าหากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ควรป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย ค่ะ นอกจากนี้ ต้องรักษาคู่นอนด้วยเสมอค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เวลามีเพศสัมพันธ์แล้วพอผ่านไปประมาณ1-2วันจะมีเลือดออกมาทางช่องคลอดประมาณ3-4วันหรือบางทีก็มากกว่านั้นแต่เลืือดที่ออกมามีกลิ่นคล้ายประจำเดือนอยากรู้ว่าเป็นอะไรคะอันตรายรึเปล่า
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สาเหตุของการมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์นั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- มีการบาดเจ็บของช่องคลอดหรืออุ้งเชิงกรานจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น ซึ่งเป็นภาวะปกติของผู้หญิงบางคนแต่ส่งผลให้มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ง่าย
- มีการอักเสบติดเชื้อของปากมดลูกหรืออุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง เช่น เริม หนองใน ซิฟิลิส
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
ถ้าหากมีอาการเลือดออกผิดปกติหลังมีเพศสัมพันธ์อยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเรกๆมันคันค่ะ ตอนนี้เเสบ เพราะว่าอาจจะเกามันด้วยค่ะ ตะเดินจะนั่ง เจ็บมากไหม ตอนโดนน้ำ ตอนปัสสาวะ เเสบทรมานสุดๆค่ะ เป็นเเผลเเบบนี้คืออะไรหรอคะ ไปคลินิคเเถวบ้าน ก็ให้ยาทามา เเล้วก็ยากิน เป็นเเผงๆ ชื่อ ketoconazole
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)