October 14, 2018 10:37
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ผลการตั้งครรภ์ ตะเชื่อถือได้ทากน้อย ขึ้นกับวิธีการ และ ช่วงเวลาการตรวจทีีเหมาะสมค่ะ
คนไข้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุดประมาณ 14 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ค่ะ (ทางปัสสาวะ) แต่ถ้าไปตรวจเลือดที่ รพ เร็วที่สุด 10 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ หากตรวจก่อนหน้านี้ แนะนำให้ตรวจซ้ำอีก 1-2 สัปาดห์ค่ะ
-โดยปกติการตรวจการตั้งครรภ์ มักใช้การตรวจฮอร์โมน human chorionic gonadotropin (hCG) จากปัสสาวะ โดยฮอร์โมนชนิดนี้จะถูกสร้างขึ้นเมื่อเกิดการตั้งครรภ์เกิดขึ้น โดยมักจะถูกสร้างหลังจากมีการที่ตัวอ่อนมีการฝังตัวที่ผนังมดลูกละสร้างรกเกิดขึ้น โดยขั้นตอนนี้มักจะใช้เวลาประมาน 1-2 อาทิตย์คะ ซึ่งปกติการจะมีประจำเดือนคือไข่ตก แต่ไม่ถูกการผสมทำให้ ผนังมดลูกที่หนาตัวขึ้นไม่มีตัวอ่อนมาฝังตัวทำให้ผนังมดลูกสลายตัวออกมาเกิดประจำเดือนเกิดขึ้น หากแต่มีการตั้งครรภ์ฺเกิดขึ้นผนังมดลูกได้รับการฝังตัวของตัวอ่อนก็จะไม่เกิดการสลายตัวของผนังมดลูก ทำให้ไม่มีประจำเดือน
-คนไข้สามารถซื้อขุดตรวจได้ตามร้านขายยาทั่วไปค่ะ
-ทั้งนี้ การตรวจอาจขึ้นกับเทคนิคการตรวจว่าทำได้ถูกต้องตรงตามฉลากบอก หรือ แผ่นตรวจไม่หมดอายุนะคะ
หากตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างค่ะ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ค่ะ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง คใรไปพบแพทยืดพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นค่ะ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ค่ะ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ค่ะ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะคะ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2เดือนก่อนประจำเดือนมาวันที่3แต่เดือนต.ค.นี้ยังไม่มาซื้อที่ตรวจมาแล้วขึ้นขีดเดียวค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)