February 02, 2019 12:49
สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
ผมเพศชาย อายุ 32 ปี ไม่ได้กินอาหารเสริมใดๆ มีที่กินอยู่ประจำคือเวย์โปรตีนหลังออกกำลังกาย
อาการที่เป็นคือมีอาการตุ่มแดงที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ
ซึ่งคุณหมอที่ไปหาแจ้งว่าเป็นเริม
เป็นมาแล้ว 5 ปี แต่มาอาการหนักใน 2 ปีที่ผ่านมา
ในอดีตเมื่อ 3 ปีแรกจะเกิดอาการตุ่มแดงเฉลี่ยปีละ 2 ครั้ง
แต่ใน2 ปีที่ผ่านมาเป็นถี่มากเฉลี่ยเกือบจะเดือนละครั้งที่อาการแสดงออก ซึ่งก่อนตุ่มจะออกจะมีอาการเจ็บขาหนีบ ปัสสาวะขัด
จึงไปพบคุณหมออีกครั้ง คุณหมอให้ทานยา Acyclovia 400 วันละ 2 เม็ดเช้าเย็นมาครึ่งปี ระหว่างทานไม่เคยเกิดอาการขึ้นเลยแต่นี่เพิ่งทานครบครึ่งปีตามที่คุณหมอแจ้งเลยหยุดทาน หลังจากหยุดทานยาผ่านมา 3 อาทิตย์อาการจึงกลับมาเป็นตุ่มแดงอีกครั้ง
ดังนั้นอยากถามคุณหมอครับว่า
1.ควรจะต้องทำอย่างไรต่อถึงจะลดอาการให้น้อยลงได้มากที่สุด
2.การกินยา Aclovia 400 ต่อไปอีกซักครึ่งปีจะช่วยไหม และจะมีผลอะไรจากการทานยาระยะยาวไหมครับ
3.มีทางเลือกในการรักษาอื่นๆอีกไหมครับ
4.มีคุณหมอเฉพาะทางที่ไหนที่รักษาโรคนี้โดยเฉพาะไหมครับ
ผมเป็นเริมที่อวัยวะเพศ มีอาการครั้งแรกประมาณ 5 ปีที่แล้ว ช่วงปีที่ 1-3 จะเกิดอาการขึ้นปีละ 2 ครั้งโดยประมาณ แต่พอในช่วง 2 ปีหลังนี้อาการเกิดขึ้นถี่มากๆ ประมาณ 7-8 ครั้งต่อปี พอไปปรึกษาคุณหมอ คุณหมอให้กินยา Acyclovia 400 วันละ 2 เม็ดเช้าเย็นมาเป็นเวลาครึ่งปีไม่เคยขาด และเพิ่งครบครึ่งปีเมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้ว จึงหยุดทานยา ปรากฎว่ากลับมาออกกอาการอีกครั้งเมื่อ 2-3 วันนี้ อยากทราบว่าผมควรจะทำแย่างไรต่อดีครับ รู้สึกหมดหวังมากๆ ควร หรือไม่ควรทำ หรือควร หรือไม่ควรทานอะไรบ้างรบกวนคุณหมอแนะนำด้วยครับ ปล.ผมไปตรวจเลือดแล้วไม่พบเชื้อ HIV ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)