สวัสดีค่ะ หนูมีอาการคันบริเวณช่องคลอดจนถึงตุ่มคิสตอริสก่อนปจด.มาประมาน1อาทิตย์ ตกขาวมีลักษณะเป็นเเป้งเปียก ไม่เหนียว สีขาว เเต่ถ้าติดอยู่ที่ชั้นในจะมีสีเหลืองออกเขียวนิดๆ ทำให้เกิดอาการคัดถ้ามีตกขาวเยอะ ควรทำอย่างไรดีคะ ควรดูเเลสุขอานามัยอย่างไร เเล้วมันเป็นอันตรายไหมคะ หมายเเหตุ:1.หนูกินยาคุมเเบบ21เม็ดด้วย 2.ตอนมีเพศสัมพันธ์มีการใช้ถุงยางอนามัยด้วยทุกครั้ง 3.จะมีอาการคันก่อนปจด.มา1อาทิตย์ หลังปจด.หมดไม่มีอาการคัน

สวัสดีค่ะ
อาการของผู้ถามเข้าได้กับการติดเชื้อราในช่องคลอด ซึ่งตกขาวมักเป็นสีขาวขุ่น จับตัวเป็นก้อนลักษณะคล้ายแป้งเปียกหรือนมบูด และมีอาการแสบหรือคันช่องคลอด รวมถึงอวัยวะเพศด้านนอก เป็นอาการเด่น
สาเหตุเกิดจาก
- บริเวณอวัยวะเพศไม่สะอาดและอับชื้น เนื่องจากดูแลไม่ดีพอ เช่น หลังอาบน้ำแล้วไม่เช็ดให้แห้งก่อนสวมเสื้อผ้า สวมกางเกงในที่เหม็นอับ หรือใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมนานๆ โดยไม่ยอมเปลี่ยน

- สวนล้างช่องคลอดด้วยสบู่ที่รุนแรง ทำให้ช่องคลอดเสียสมดุล และเชื้อประจำถิ่นถูกกำจัดไป เชื้อโรคอื่นๆ จึงฉวยโอกาสมารุกรานได้ง่าย

- ใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียบริเวณช่องคลอดถูกทำลาย เชื้อราก่อโรคอื่นๆ จึงเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว

- ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง เช่น อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง

- ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากอวัยวะเพศชายไม่สะอาด

แม้ว่าอาการของผู้ป่วยน่าจะเกิดจาการติดเชื้อราในช่องคลอดมากที่สุด การรักษา มักใช้เป็นยาสอด คือ clotrimazole 100mg สอด 7 วัน หรือ 500 mg สอด 1 วัน แต่อาจมีสาเหตุอื่นเกิดร่วมได้ แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์ เพื่อทำการตรวจภายในและหาสาเหตุ จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องค่ะ