March 24, 2019 17:29
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ อาการดังกล่าว ต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมค่ะ เนื่องจากอาการทั้งสองอาจจะเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกันก็ได้ค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> อาการเจ็บหน้าอก มีสาเหตุได้หลายแบบค่ะ ได้แก่ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 1.สาเหตุจากปอด เช่น ปอดอักเสบ ติดเชื้อ , หอบหืด ลมรั่วในปอด ซึ่งถ้ามีลมรั่วในปอด อาการเจ็บจะสัมพันธ์กับการหายใจเข้าออก สามารถเกิดขึ้นได้เองโดยไม่มีปัจจัยกระตุ้น หรือบางคนเป็นหลังการติดเชื้อ หรือการกระทบกระแทกค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 2.สาเหตุทางหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือถ้าคนอ้วน / สุงอายุ อาจเกิดจากหัวใจขาดเลือด (ในคนอายุน้อยก็พบได้ แต่อาจจะน้อยกว่าค่ะ) อาการปวดของหัวใจขาดเลือด ลักษณะจะปวดแน่นๆ เหมือนมีอะไรมาทับ และจะมีอาการแม้ในขณะพัก บางคนอาจหน้ามืดเป็นลม ร้ายแรงสุด บางคนอาจหัวใจหยุดเต้นไปเลยนะคะ ถ้าคนไข้มีอาการดังนี้ ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร่งด่วนค่ะ นอกจากนี้ คนไข้อาจมีอาการร่วมเช่น นอนราบไม่ได้ หรือมีอาการตื่นมาหายใจเหนื่อย หลังจากหลับไปแล้ว 1-2 ชม ค่ะ ถ้ามีอาการดังนี้ อาจสนับสนุนอาการของหัวใจวายค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 3.สาเหตุที่กล้ามเนื้อ เช่น ผ่านการออกกำลังกาย / ออกแรงมากๆ อาจมีการอักเสบของกล้ามเนื้อและกระดูก กรณีนี้อาจมีจุดกดเจ็บชัดเจนที่บริเวณหน้าอกค่ะ สามารถเป็นๆหายๆได้ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> 4.กรดไหลย้อน อาการจะไปในทางแน่นๆกลางอก บางคนอาจมีแสบร้อนยอดอก หรือ heart burn ได้ค่ะ ถ้าอาการเป็นมาก แนะนำให้ไปตรวจร่างกายเพิ่ทเติมที่ รพค่ะ อาจมีการทำ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือ เอกเรย์เพิ่มเติมค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> ส่วนอาการปวดท้องน้อยมปัสสาวะบ่อย>>>เหมือนมีการ ติดเชื้อ ทางเดินปัสสาวะนะคะ เช่น กระเพาะปัสสาวะอักเสบ กรวยไตอักเสบ เป็นต้นอาการคือ จะรู้สึกปัสสาวะไม่สุด ปวดปัสสาวะตลอดเวลา ปัสสาวะแสบขัด บางคนอาจมีการปัสสาวะเป็นเลือดร่วมด้วย หรือบางคนอาจทีไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง ซึ่งโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะนี้ สามารถเกิดได้ทั้งจากเชื้อไวรัส และ แบคทีเรีย ค่ะ ข้อแนะนำเบื้องต้น คือ ควรได้รับการตรวจร่างกาย เพิ่มเติม อาจจะต้องตรวจปัสสาวะ และได้รับยาฆ่าเชื้อค่ะ ช่วงนี้แนะนำว่าให้ดื่มน้ำมากๆ และงดกลั้นปัสสาวะนะคะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ถ้าเป็นไม่มาก ก็อาจจะเป็นเพียงกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่หากคนไข้ไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ชอบกลั้นปัสสาวะ เป็นต้น และไม่รักษา อาจทำให้ลุกลามไปถึง กรวยไตและไตได้ค่ะ >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>> นอกจากนี้ อาจจะยังมีโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดอาการเดียวกันได้ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่างๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรือ นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ก็ทำให้ปวดได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ก่อนหน้านี้มีอาการเจ็บหน้าอกประมาณ3-6วัน จู่ก็ปวดท้องน้อย ฉี่บ่อย
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)