February 24, 2018 17:14
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การใช้ยาคุมฉุกเฉิน มีโอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25% ค่ะ
ความเสี่ยงจะน้อยลง ถ้า...
1. มีรอบประจำเดือนยาว เช่น 35 วัน (รอบประจำเดือน ก็คือระยะห่างระหว่างวันแรกที่มีประจำเดือนในแต่ละครั้งค่ะ) และประจำเดือนมาตรงตามรอบตลอด เพราะน่าจะไม่มีการตกไข่ในช่วงนี้ (แต่ถ้าประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือรอบประจำเดือนสั้น ก็มีความเสี่ยงที่จะมีไข่ตกเร็วค่ะ)
2. น้ำอสุจิมีปริมาณเล็กน้อย และยังไม่ใช่การหลั่งเมื่อถึงจุดสุดยอด
อย่างไรก็ตาม ผู้ถามมีการแก้ไขสถานการณ์ได้ดีแล้วค่ะ นั่นคือรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็ว จากนี้ก็รอดูว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่นะคะ ถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนครั้งหน้าก็จะมาถามรอบเดิมค่ะ อาจเร็วหรือช้ากว่าวันที่คาดไว้บ้าง แต่มักไม่เกิน 7 วัน
ภายใน 7 วันหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉิน บางคนอาจมีเลือดกะปริบกะปรอยนะคะ แต่บางคนก็ไม่มี อาการนี้คือผลข้างเคียงจากยาค่ะ อาจเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ ไม่ต้องตกใจนะคะ
ต่อไป ลองพิจารณาการใช้ยาคุมรายเดือน + ใช้ถุงยาง เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์นะคะ เพราะมีประสิทธิภาพดีทั้งคู่ถ้าใช้ถูกวิธีและไม่เกิดข้อผิดพลาด และต่อให้พลาดทางใดทางหนึ่ง (เช่นครั้งนี้ที่ถุงยางแตก) ก็ยังมีอีกทางที่ป้องกันได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แปลว่าโอกาสท้องมี แต่น้อยใช่ไหมคะคุณหมอ ฉันกังวลมากๆเลยค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
มีโอกาสท้อง แต่ไม่สามารถตอบได้นะคะว่าเสี่ยงน้อยหรือไม่ เพราะไม่ทราบข้อมูลรอบประจำเดือน และจำนวนการหลั่งอสุจิ แต่แนะนำเป็นแนวทางได้ว่าถ้าไม่ใช่ช่วงที่ไข่ตก และอสุจิเข้าไปในช่องคลอดได้น้อย ก็มีความเสี่ยงที่จะท้องน้อยกว่าค่ะ
คุณต้องพิจารณาตามข้อ 1 และ 2 ในความเห็นก่อนนี้นะคะ
ในข้อ 1 จะเป็นการประเมินว่าน่าจะเป็นช่วงที่ไข่ตกหรือไม่ (เป็นการคาดการณ์ค่ะ ไม่ 100%) โดยดูรอบประจำเดือนย้อนหลังอย่างน้อย 3 เดือน (หรือมากกว่ายิ่งดี)
และในข้อ 2 จะเป็นการประเมินว่าน่าจะมีอสุจิจากถุงยางที่แตก เข้าไปในช่องคลอดได้มากหรือน้อย ลองถามแฟนว่า มีการหลั่งจากการถึงจุดสุดหรือยัง และมีการหลั่งอะไรออกมามากน้อยแค่ไหน
แต่คือ... ในคนที่ใช้ถุงยาง เค้าไม่จำเป็นที่จะต้องพยายามบังคับตัวเองไม่ให้หลั่ง เพราะยังไงก็มีถุงยางคอยป้องกันอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าถุงยางฉีกขาดแล้วเห็นว่าในถุงยางมีน้ำอสุจิน้อย มันก็เป็นไปได้ว่าน้ำอสุจิออกไปกับรอยฉีกขาดเกือบหมดแล้ว หรือยังไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิออกมาในถุงยางเยอะก็ได้ สรุปก็คือบอกได้ยากค่ะ
จึงอาจต้องไปดูช่วงเวลาตามข้อ 1 ว่าใกล้ช่วงตกไข่มั้ย ซึ่งถ้าประจำเดือนมาตรง (ไม่เร็วบ้างช้าบ้าง) และรอบประจำเดือนไม่สั้น (ไม่มาเร็วกว่า 28 วัน) ก็น่าจะไม่ใช่ช่วงที่มีไข่ตกนะคะ ซึ่งถ้าไข่ไม่ตกก็ไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
สรุปว่า ที่สามารถบอกได้ตามสถิติคือ มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ (เป็นตัวเลขในกรณีที่ใช้ยาคุมฉุกเฉิน)
ตัวเลขไม่สูงกว่านี้เพราะได้มีการใช้ยาคุมฉุกเฉินภายในเวลาที่เหมาะสมแล้ว ซึ่งถ้าไม่ใช้หรือใช้ไม่ทัน ตัวเลขอาจสูงกว่านี้ก็ได้ค่ะ
แต่ตัวเลขจะต่ำกว่านี้ได้มั้ย คงไม่สามารถจะบอกได้ เพราะคุณให้ข้อมูลเพิ่มเติมในอีกกระทู้คำถามหนึ่งว่าประจำเดือนของคุณมาไม่ตรงซักเดือน ทำให้มีความเสี่ยงที่ไข่จะตกเร็วหรือช้ากว่าวันที่คาดไว้ก็ได้ อีกทั้ง ไม่สามารถจะยืนยันได้ว่าที่มีน้ำอสุจิเหลือน้อยในถุงยาง เป็นเพราะยังไม่มีการหลั่งมาก หรือหลั่งมากและออกไปกับรอยฉีกขาดของถุงยางเกือบหมดแล้ว
อย่างไรก็ตาม อยากจะย้ำว่า คุณเลือกวิธีคุมกำเนิดได้ดี (ใช้ถุงยางอนามัยก่อน) และแก้ไขสถานการณ์ได้เหมาะสมแล้ว (เมื่อถุงยางฉีกขาดก็รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉิน) ซึ่งช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ค่ะ
แต่ถ้าต้องการประสิทธิภาพที่เหนือกว่านี้อีก ในกรณีที่อาจเกิดข้อผิดพลาดจากการใช้ เช่น ถุงยางรั่วซึมหรือฉีกขาด อาจใช้ถุงยางร่วมกับวิธีคุมกำเนิดอื่น เช่น ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด, แผ่นแปะคุมกำเนิด, ยาฉีดคุมกำเนิด, หรือยาฝังคุมกำเนิด (ซึ่งยาฝังคุมกำเนิดถือว่าประสิทธิภาพสูงมาก และแทบไม่มีข้อผิดพลาดจากการใช้เหมือนวิธีอื่น ๆ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางร่วมด้วยก็ได้ ถ้าไม่ได้ต้องการผลในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะ คือเรื่อวมีอยู่ว่าฉันเป็นประจำเดือนวันที่17 และประจำเดือนหมดไปวันที่22 ฉันทีอะไรกับแฟนในวันที่23ค่ะ และเกิดปัญหาถุงยางแตกค่ะพอได้ยินเาียแตกก็รีบเอาออกทันทีะ ซึ่งในถุงยางจะมีอสุจิเพียงเล็กน้อยค่ะ และวันที่24ฉันกินยาคุมฉุกเฉิน อยากทราบว่าจะท้องไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)