July 13, 2019 22:50
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
อาการเวียนหัวและปวดหัว ต้องได้รับการซักประวัติอย่างละเอียด เกี่ยวกับลักษณะการปวดเพิ่มเติม อาการร่วมกับปวดหัว เช่น ตามัว อาเจียน แขนขาอ่อนแรง การเห็นแสงสิบวับ เป็นต้น รวมถึงต้องตรวจร่างกายทางระบบประสาทอย่างละเอียดด้วยครับ
จึงตะสามารถวินิจฉัยและรักษาได้อยาางตรงจุด ตัวอย่างโรคเกี่ยวกับการปวดหัว
สำหรับคนไข้ อาการที่นึกถึงได้ 3 อย่าง ในขณะนี้ คือ
1. โรคไมเกรน (migrain)ครับ คือ โรคชนิดหนึ่งซึ่งยังหาสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ แต่น่าเชื่อได้ว่าอาจมีจุดกำเนิดจากก้านสมองที่ทำงานผิดปกติ หรือเกิดจากภาวะที่สารเคมีในสมองไม่สมดุล ส่งผลให้หลอดเลือดมีความไวต่อการกระตุ้นมากเป็นพิเศษกล่าวคือ มีการหด และขยายตัวของหลอดเลือดอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะได้
โดยลักษณะอาการปวดศรีษะจะมีลักษณะ ปวดบริเวณขมับโดยอาจจะปวดข้างเดียว หรือทั้งสองข้างก็ได้ บางกรณีอาจมีการปวดวนกันไป และมักจะปวดข้างเดิมอยู่ซ้ำ ๆ
ส่วนอีกบริเวณหนึ่งที่พบมาก ได้แก่ บริเวณเบ้าตา ลักษณะของการปวด ก็มักจะปวดตุ้บๆ ตามจังหวะของชีพจร ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย
การรักษาโดยการกินยาลดอาการปวด การกินยาป้องกันไม่ให้หลอดเลือดหดและขยายตัวซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดเกิดขึ้น
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคกำเริบซึ่งจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เช่นความเครียด บางคนเจออาการร้อนหรือที่ๆแสงสว่างมากๆก็กระตุ้นได้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง หรือเครื่องดืมที่มีคาเฟอีนครับ
—อย่างที่สองที่นึกถึงได้ คือ การติดเชื้อโดยเฉพาะ การติดเชื้อที่ระบบทางดินหายใจส่วนบน เช่น ไซนัสอักเสบ ไข้หวัดใหญ่ อาจทำให้มีอาการปวดศรีษะ บางรายอาจมีอาการปวดบริเวณใบหน้า ปวดรอบเบ้าตา อาจมีน้ำมุกสีเขียวผิดปกติ คัดจมูก มาก หรือบางคนอาจมีการได้กลิ่นลดลงได้ค่ะ เป็นต้น
การรักษาคือ การให้ยาฆ่าเชื้อ และการล้างจมูกบ่อยๆ
3.Tension headache เป็นการปวดศรีษะชนิดหนึ่ง ที่พบได้บ่อยที่สุด วินิจฉัยโดยอาศัยลักษณะ อาการปวดโดยมักจะปวดตื้อๆ บีบๆเริ่มจากบริเวณท้ายทอยร้าวไปขมับ สองข้าง
บางครั้งอาจจะกดเจ็บบริเวณหนังศรีษะร่วมด้วย มักมีสาเหตุเกิดจากความเครียด การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอครับ
4.-cluster headache เป็นการปวดหัวอีกแบบหนึ่ง ที่คนไข้ จะมีอาการปวดหัวมากๆ จะข้างเดียว หรือสองข้างก็ได้ ลักษณะคือ จะปวดรอบตาก่อน และอาจกระจายไปปวดที่อื่นๆของใบหน้าและศรีษะ คนไข้บางคนอาจปวดมากจนน้ำตาไหล เหงื่อไหล บางคนอาจปวดจนตื่นมากลางคืนครับ ระยะเวลาของช่วงที่ปวดแตกต่างกัน อาจปวดได้นานเป็นช่วงๆ ช่วงละ 30-90 นาที ยาวนาน6-12 สัปดาห์ครับ
สาเหตุของการปวดหัวชนิดนี้ ยังไม่ทราบแน่ชัดครับ
การรักษาเบื้องต้น ได้แก่ การทานยาแก้ปวด งดดื่มแอลกอฮอล์ ( เพราะบางตำราเชื่อว่า แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุของอาการปวดได้) การให้ยาโดยแพทย์ มักเป็นยากลุ่ม triptans หรือ การให้ออกซิเจน จะช่วยบรรเทาอาการได้ครับ
อย่างไรก็ตาม โรคปวดศรีษะ มีมากมายหลากหลาย ต้องอาศัยการซักประวัติและการตรวจร่างกายทางระบบระสาทอย่างละเอียดครับ ซึ่งการรักษาก็ขึ้นกับว่าวินิจฉัยเป็นโรคอะไรครับ หากไม่แน่ใจว่าอาการที่เป็นนั้นเข้าได้กับอาการที่กล่าวทางด้านต้น แนะนำให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจและวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมีอาการเหล่านี้ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษครับ
1.ปวดมาก ปวดตลอดเวลาไม่มีช่วงที่หายสนิทเลย
2.ปวดจนสะดุ้งตื่น ขึ้นมากลางดึก หลังจากที่หลับไปแล้ว
3.มีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่นชักเกร็งกระตุก คลื่นไส้ มีอาเจียนพุ่ง หนังตาตก แขนขาอ่อนแรงหรือชาเป็นต้น
4.มีไข้
5.มีอุบัติเหตุกระทบกระแทกศรีษะ
5.มีโรคประจำตัวบางอย่างเช่น มะเร็งชนิดต่างๆ โรคเลือด โรคติดเชื้อ HIV เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปวดเป็นครั้งคราวค่ะ ปวดไม่รุนแรงมากค่ะแต่เวลาที่ปวดบริเวณเส้นเลือดที่ศีรษะมันจะตุุบๆๆปวดจี๊ดๆค่ะ
ปวดไม่ถึงขั้นอาเจียน/คลื่นไส้ ตาไม่มัว แขนขาไม่อ่อนแรง ไม่เห็นแสงวิบวับค่ะ น่าเข้าข่ายข้อ3ค่ะ มีอาการปวดที่ต้นคอบริเวณท้ายทอยค่ะ ปวดท้ายทอยพร้อมๆกับปวดหัวค่ะ
สาเหตุที่เป็นน่าจะมาจากความเครียดค่ะ
เวลาที่ปวดจะไม่ได้ทานยาพารานะค่ะจะพยายามบอกตัวเองว่าไม่ให้เครียดค่ะ แล้วอาการที่ปวดตุบๆก็ลดลงค่ะ แต่ถ้าคิดก็จะปวดตลอดค่ะ ลองลูบที่ศีรษะดูเวลาไม่ปวดพอไปโดนเส้นเลือด(บริเวณที่เคยปวดตอนปวดหัว)มันรู้สึกปวดๆเหมือนโดนอะไรทุบนะค่ะเลยกังวลว่าจะเป็นอะไรหรือป่าวค่ะ ก็เลยปรึกษาค่ะ
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ความเครียดอาจส่งผลต่อหลายระบบในร่างกาย ได้แก่ ระบบหัวใจและการไหลเวียนเลือด ความดันโลหิต ระบบกล้ามเนื้อตึงเกร็งทำให้เกิดอาการปวด เช่น ปวกหัว ปวดตึงท้ายทอย ปวดหลังและไหล่ ระบบย่อยอาหารทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดออกมาปริมาณมากทำให้เกิดอาการของโรคกระเพาะ หรือกรดไหลย้อนได้ นอกจากนั้นยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยได้ง่ายค่ะ
ในกรณีนี้เบื้องต้นแนะนำให้ผ่อนคลายความเครียดด้วยตนเองดูก่อนนะคะ เช่น การออกกำลังกาย การกำหนดลมหายใจเข้าอออก(คล้ายกับการทำสมาธิ) จังหวะหายใจเข้า นับ 1-2-3-4 กลั้นไว้ นับ 1-2 ผ่อนลมหายใจออก นับ 4-3-2-1 เป็นต้น
แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาตามแนวทางที่เหมาะสมต่อไปนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
อาการเดียวกันเลยครับ ผมเพิ่งเป็น
มีอาการปวดหัว ลูบบริเวณหนังศีรษะพบว่าบริเวณที่ปวดนั้นเป็นเหมือนเส้นเลือดบนหนังศีรษะมีอาการปวดจี้ดๆ ปวดเหมือนโดนทุบศีรษะ ปวดบริเวณขมับขวาไล่ขึ้นไปถึงกลางศีรษะฝั่งขวาค่ะ อยากสอบถามว่าอันตรายหรือไม่ เพราะช่วงนี้มีเรื่องเครียดและกังวลหลายอย่างค่ะ ต้องดูแลร่างกายยังไงค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)