สวัสดีค่ะ ฉันเป็นคนคิดมาก ถึงมากที่สุด เรื่องเล็กๆฉันก็คิดมาก ฉันสามารถเก็บมาคิดได้ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ หรือไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคนอื่น ฉันก็เอาเก็บมาคิด ฉันชอบคิดย้ำๆซ้ำๆ ไม่ว่าจะหาวิธีอะไรฉันก็ไม่สามารถหยุดการคิดมากนี้ได้ ปัญหาของฉันคือฉันคิดมาก แล้วคิดไปในแง่ลบ ว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆอะไรขึ้นไหม ทั้งที่ยังไม่มีเรื่องแย่ๆอะไรเกิดขึ้น แต่เหมือนว่าฉันจะคิดล่วงหน้าไปก่อน เพราะฉันกลัวที่จะรับไม่ไหวถ้าฉันไม่ได้คิด เวลาเล่าปัญหาให้ครอบครัวฟัง ฉันไม่ได้รับการปลอบใจ ไม่มีการเข้าข้างแม้จะเป็นเรื่องที่ผิดหรือถูก ครอบครัวฉันไม่เห็นด้วยกับฉัน ฉันเลยเรียกร้องความสนใจจากแฟนของฉัน และฉันเอาแต่ใจกับแฟนของฉัน จนแฟนของฉันเริ่มที่จะไม่ตามใจอีกต่อไป เวลาที่ฉันเล่าเหตุผลว่าทำไมมันเกิดแบบนี้ๆ ฉันมักจะถูกปฏิเสธ และไม่มีใครเข้าใจปัญหาที่ฉันเจอ ฉันรู้สึกน้อยใจอย่างมาก จนฉันคิดว่าถ้าฉันตายไป ทุกคนคงดีใจและสบายใจ เพราะฉันรู้สึกว่าฉันทำอะไรก็ล้มเหลว เป็นภาระตลอด ทำให้คนอื่นๆเสียใจเพราะตัวฉัน เวลาที่ฉันเครียดมากๆแล้วร้องไห้ ฉันมักจะเจ็บหน้าอกข้างขวากับซ้าย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นข้างขวามากกว่า ฉันจะสามารถเป็นโรคซึมเศร้าหรือเป็นคนวิตกกังวลไหมคะ

สวัสดีค่ะ คำถามของคุณอาจกว้างเกินไป ทำให้คุณหมอไม่สามารถให้ความเห็นได้ กรุณาอธิบายอาการอย่างละเอียดว่าเป็นอย่างไร บริเวณไหน เป็นมานานและถี่แค่ไหน รวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณ เช่น เพศ อายุ ยาหรืออาหารเสริมที่ทานอยู่ เป็นต้น หรือคุณอาจค้นหาคำตอบคุณหมอ และกว่า 5,000 บทความสุขภาพในเว็บของเรา หากคุณถามเกี่ยวกับโรงพยาบาล คุณสามารถค้นหาข้อมูลติดต่อของโรงพยาบาลได้ที่นี่ หรือส่งอีเมลมาที่ [email protected] ค่ะ ขอบคุณค่ะ

การที่คิดลบ รู้สึกผิด คิดว่าตนเป็นภาระคนอื่น หากมีอาการติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้ ค่ะ
เบื้องต้นลองเช็คอาการดูก่อนนะคะ ในช่วง 2 สัปดาห์ มีอาการเหล่านี้เกิน 7 ข้อหรือไม่
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินไป
5.เบื่ออาหาร/หรือทานได้มากขึ้น
6.รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง รู้สึกผิด เป็นภาระผู้อื่น
7.ขาดสมาธิ
8.พูดช้า/กระสับกระส่าย
9.คิดทำร้ายตัวเอง /อยากฆ่าตัวตาย

หากมีอาการมากกว่า 7 ข้อขึ้นไป ควรพบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม

ซึ่งอาการดังกล่าวบางครั้งเกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การคิด อารมณ์ พฤติกรรม หรือวิธีการปรับตัวกับปัญหาผิดปกติหรือไม่เหมาะสมได้ค่ะ

การรักษาจำเป็นต้องใช้ยาเพื่อปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ร่วมกับการทำจิตบำบัดจะช่วยให้อาการดีขึ้นนะคะ

อาจเป็นไปได้นะคะ ซึ่งในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการวิตกกังวลอาจมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย ดังนั้นควรพบจิตแพทย์ เพื่อวินิจฉัยแยกโรคให้แน่ชัดก่อนนะคะ ซึ่งเกณฑ์การวินิจฉัยของจิตแพทย์จะต้องประเมินอาการจากการพูดคุย-สังเกต หรือจากการประเมินด้วยแบบทดสอบ ระยะเวลาที่มีอาการ ฯลฯ แล้ววางแผนการรักษา ซึ่งจ้องใช้ยารักษาอาการ รวมทั้งการทำจิตบำบัดเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถปรับตัวใช้ชีวิตได้เป็นปกติค่ะ

สวัสดีครับ

จากที่เล่ามา ก็จะมีในเรื่องของความคิดวิตกกังวลและดูจากการที่คุณได้รับปฏิกิริยาจากคนรอบข้างแบบนั้นก็ทำให้คุณรู้สึกท้อใจ และทำให้คุณรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจคุณเลย คุณไม่ได้รับการ support ด้านจิตใจจากทั้งครอบครัวหรือแฟน ซึ่งทำให้คุณรู้สึกผิดหวังและมีความคิดว่าอยากตายขึ้นมาบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็ไม่แปลกนะครับที่จะมีอาการเหล่านี้เข้ามาเนื่องมาจากการได้รับสิ่งเหล่านั้นจากคนใกล้ชิดมาเป็นเวลาซักพักหนึ่ง

แต่อย่างไรก็ตาม อาการวิตกกังวล หรืออาการซึมเศร้าต่างเหล่านี้สามารถแก้ไขให้หายไปได้ครับ ผมคิดว่าในจุดหนึ่งความคิดวิตกกังวลมากๆตรงนี้อาจจะเป็นต้นตอของการที่ไม่มีคนรับฟังคุณ เพราะทุกคนอาจจะคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นความวิตกกังวลที่เกินจริง ซึ่งคุณอาจจะต้องมาลองทบทวนสิ่งเหล่านี้กับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา เพื่อลองปรับความคิดและพฤติกรรมในด้านต่างๆที่จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง และดีต่อสุขภาพจิตของตัวคุณเองด้วยนะครับ ซึ่งการที่จะทำแบบนั้นได้ก็อาจจะต้องอาศัยระยะเวลาและความต่อเนื่องในการเข้ารับคำปรึกษาหรือจิตบำบัด และอาจจะต้องควบคู่ไปกับการทานยาบางชนิดตามแต่คุณหมอจะพิจารณาถึงความเหมาะสมนะครับ

ในส่วนของความเครียดและความเสียใจตรงนี้ ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความเครียดลดลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะทำให้สภาพจิตใจและเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ ในเรื่องของความคิดฆ่าตัวตาย หากมีความคิดเหล่านี้เข้ามาเยอะๆ หรือว่าคุณคิดว่าตนเองมีแนวโน้มที่เราจะทำร้ายตนเองหรือฆ่าตัวตายแล้วคุณไม่สามารถที่จะพาตนเองไปยังโรงพยาบาลได้ สิ่งแรกที่คุณควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือคุณสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำคุณไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ หากคุณมีคำถามอื่นๆ ก็สามารถสอบถามเข้ามาได้นะครับ